ตำรวจท่องเที่ยวรวบหนุ่มไต้หวันแก๊ง Call Center หลอกโอนเงิน เผยหัวหน้าใหญ่หมกตัวอยู่ไต้หวัน ส่งลูกน้องมากดเงิน มาไทยได้ 3 วัน ได้เงินไป 6 ล้าน ตำรวจเตรียมนำหลักฐานจับคนไทยร่วมขบวนการ
วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ทท. แถลงการจับกุม นายเลียง เฮา ยี อายุ 30 ปี สัญชาติไต้หวัน ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือแก๊ง Call center หลอกโอนเงิน พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ใบ บัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ และเงินสดจำนวน 40,000 บาท
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับนายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผช.ผจก.ใหญ่ สายบริหารการป้องกันการทุจริตธนาคารพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อจับกุมแก๊งคนร้ายที่ใช้อุบายหลอกลวงว่ามีหนี้ค้างชำระบัตรเครดิตอยู่หรืออาจถูกขโมยข้อมูลทางการเงิน เมื่อประชาชนหลงเชื่อก็จะมีคนไทยลวงให้ไปที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อให้โอนเงิน หรือที่เรียกกันติดปากว่า แก๊ง call center หลอกโอนเงิน โดยธนาคารได้รับแจ้งจากลูกค้ากว่า 10 รายว่าถูกหลอกลวง มูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า หล้งได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทราบว่านายเลียง เฮา ยี จะมากดเงินที่ได้รับโอนจากผู้เสียหายบริเวณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ ย่านพญาไทบ่อยครั้ง จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา นายเลียง เฮา ยี ได้มากดเอทีเอ็มที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบว่านายเฮายีเป็นบุคคลสัญญาติไต้หวัน ถือหนังสือเดินทางซึ่งเดินทางเข้าเมืองไทยมาวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมกับพบบัตรเอทีเอ็มซึ่งเป็นของกลางดังกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบัตรเอทีเอ็มพบว่าเจ้าของบัตรเป็นคนไทยชื่อ นายอเนก นงลักษณ์, นายลีชล เชียงคำ, นายเกรียงไกร สุนทรชื่น และน.ส.เดือนเพ็ญ ไหวใหญ่ ซึ่งทั้ง 4 คนรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายจ้างชาวไต้หวันให้นำบัตรดังกล่าวมากดเงิน และจะได้ค่าจ้างประมาณร้อยละ 1 จากเงินที่หลอกลวงได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่ายังมีคนไทยหลงเชื่อกลอุบายลักษณะนี้อยู่แม้จะเตือนอย่างไรก็ยังไม่สามารถทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลได้ทั่วถึง โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมขบวนการนี้ได้แล้ว 825 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด แต่จากนี้ไปจะติดตามจับกุมคนไทยที่ร่วมขบวนการนี้ด้วย
“ขบวนการนี้มีหัวหน้าอยู่ที่ไต้หวัน จ้างกลุ่มไทยอัดเสียงเป็น Call center และใช้ระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VOIP) ซึ่งสามารถกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ไปที่เครื่องโทรศัพท์ของเหยื่อได้ โดยนายเฮายี เป็นเพียงบุคคลที่หัวหน้าแก๊งส่งมาเพื่อกดเงิน โอนเงินไปที่ไต้หวัน โดยพฤติกรรมเช่นนี้ยังเกิดขึ้นที่มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ด้วย” พล.ต.ท.ไถงกล่าว
