โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธานในพิธี “ยกย่องและเชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ (Police Award)” โดยทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ ญาติ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานโล่ประดับพระนามาภิไธย มวก. พร้อมกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตอีก 25 ครอบครัว และข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 95 ราย
วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ที่รร.วชิรธรรมสาธิต พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาพบ นางพิมพ์สุภัค บุบผา อาจารย์ระดับ 7 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซอยสุขุมวิท 101/1 มารดาของ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา รอง สว.สส.สน.หัวหมาก ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ถูกกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดยิงถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2552 ในเขตพื้นที่ สน.หัวหมาก โดยพล.ต.ท.พงศพัศ ได้แจ้งให้ทราบว่า ในวันศุกร์ที่ 26 ก.พ.2553 เวลา 16.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธานในพิธี “ยกย่องและเชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ (Police Award)” โดยทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ นางพิมพ์สุภัค ฯ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานโล่ประดับพระนามาภิไธย มวก. พร้อมกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตอีก 25 ครอบครัว และข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 95 ราย ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ข้าราชการตำรวจโดยส่วนรวม
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติและมูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม ได้จัดพิธีนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2552 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร โดยครั้งนั้น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธานในพิธีฯ ยังความปราบปลื้มปีติแก่ครอบครัวข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ จำนวน 131 ราย ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานโล่เกียรติคุณโดยพร้อมเพรียงกัน
"สำหรับปี 2553 นี้ จะมีครอบครัวข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 26 ครอบครัว และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อีก 95 ราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 121 ราย เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานโล่เกียรติคุณ ซึ่งได้พระราชทานพระราชานุญาตให้มีการถ่ายทอดสดพิธีดังกล่าวทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ และสถานีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียมด้วย"โฆษก.ตร.กล่าว
ส่วนรายชื่อผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2552 จำนวน 26 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ท.ยุทธการ เปลี่ยนโพธิ์ รอง ผกก.ปป.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี พ.ต.ต.บุญถึง บุญจอง สว.สส.สภ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ร.ต.อ.กร เดชธนสถิรนันท์ รอง สว.สป.ภ.จ.กาญจนบุรี ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา สว.สส.สน.หัวหมาก ร.ต.ท.ปฏิญญา ศรีหาเวช รอง สว.ฝอ.ภ.จ.ชัยภูมิ ร.ต.ท.เอก สุขิโต ผบ.มว.(สบ 1) กก.ตชด. 44 ร.ต.ต.สุรชัย ชัยสงคราม ผบ.มว.(สบ 1) กก.1บก.สอ.บช.ตชด. ร.ต.ต.รุ่งอรุณ กลิ่นกลั่น ผบ.มว. (สบ 1) กก.1 บก.สอ.บช.ตชด.
ด.ต.วิเชียร บุญเพชรศรี ผบ.หมู่ (ป.)สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ด.ต.วุฒิพงษ์ กลั้งกระโทก ผบ.หมู่ สน.ดุสิต ด.ต.ถนัด คูหามุข ผบ.หมู่(ป.)สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ด.ต.วศพล คำมี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ด.ต.สมเด็จ มะสิโกวา ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ด.ต.วสันต์ สุขประสิทธิ์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จ.ส.ต.รังสรรค์ กาหลง ผบ.หมู่(ป.)สภ.บันนังสตา จ.ยะลา จ.ส.ต.มนต์ชัย บุญสะอาด ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ส.ต.อ.สะอาด อุดมพงษ์ ผบ.หมู่(ป.)สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ส.ต.อ.พิศาล ศิริอำมาตย์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ส.ต.อ.วินัย เหมมันต์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส.ต.ท.เลิศวิลัย ส่อยไชย ผบ.หมู่ ปจ.ภ.จ.ปัตตานี ส.ต.ท.หญิงสุภาวดี ตั้งประสมสุข ครู(ปท 1) ร้อย ตชด.442 กก.ตชด.44 ส.ต.ท.วัชระพงศ์ อำภัยฤทธิ์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ส.ต.ต.ภราดร รองสกุล ผบ.หมู่(นปพ.) สภ.ปะแต จ.ยะลา ส.ต.ต.เกรียงไกร พานแก้ว ผบ.หมู่(นปพ.) สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ส.ต.ต.ชิษณุพงศ์ หลามจันทร์ทึก ผบ.หมู่ ร้อย 4 กก.2 บก.สอ.บช.ตชด. และ ส.ต.ต.อาลาวี มาเละ ผบ.หมู่(ป.) สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 95 ราย ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชานุญาตให้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานโล่เกียรติคุณด้วยเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว และบางส่วนต้องเสียอวัยวะสำคัญ ต้องพิการและทุพพลภาพ แต่ทั้งหมดก็ตั้งใจที่จะกลับไปปฏิบัติงานในพื้นที่อีก ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่เสียสละและอุทิศให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง