ตร.-ทหารตั้งด่านจับหนุ่มพกอาวุธปืนหน้าศาลฎีกา

ตำรวจนครบาล 1-สารวัตรทหาร รวบหนุ่มพกพาอาวุธปืนขนาด 9 มม.และกระสุนกว่า 30 นัด ซิ่งกระบะผ่านด่านตรวจหน้าศาลฎีกา ปัดไม่เกี่ยวข้องการชุมนุมเสื้อแดง-ยันมีไว้ป้องกันทรัพย์สินเท่านั้น

วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 03.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พ.ต.ท.พีรพันธุ์ คงธนคณากุล สวป.สน.ชนะสงคราม ร.ต.ท.ภาณุวัฒน์ จันทศรี รอง สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร แถลงข่าวจับกุม นายภารินทร์ หรือเอก ขุนคงเสถียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/26 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพค้าขายและเปิดร้านเกมย่านบางแค พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อพาราออดแนนซ์ จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีนบรรจุกระสุน จำนวน 2 แมก และกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 37 นัด

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ตั้งจุดตรวจค้นที่บริเวณหน้าประตู 1 ศาลฎีกา สนามหลวง ถ.ราชดำเนิน แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร ท้องที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา 01.50 น. ผู้ต้องหาได้ขับกระบะอีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียบ ชธ-6120 กทม.ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นและพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนบรรจุในแมกกาซีนลักษณะพร้อมใช้ ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ข้างประตูคนขับด้านขวามือ จึงจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืนโดยซื้อมาจากร้านปืนย่านดิโอลด์สยามเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยจะเอาไว้ป้องกันทรัพย์สินที่มีกิจการร้านเกมย่านบางแค บ้านพักย่านบางบัวทอง และไร่มะม่วง พื้นที่ 24 ไร่ ที่ อ.ด่านมะข้ามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ยึดกระสุนปืนจำนวน 180 นัด พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ขณะตั้งด่านตรวจที่บริเวณหน้าศาลฎีกาเช่นเดียวกัน

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ตั้งด่านตรวจร่วมกันเพื่อป้องกันเหตุร้ายทั่วพื้นที่ กทม.จำนวน 200 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.1 นั้นได้ตั้งด้านตรวจร่วมตำรวจทหาร ทั้งหมด 5 จุด คือ บริเวณศาลฎีกา แยกนางเลิ้ง หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ สวนสัตว์ดุสิต และหน้ากระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ได้ตั้งจุดตรวจค้นบุคคลและวัตถุต้องสงสัย อีก 8 จุด ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยอื่นๆ นั้นได้สั่งการตำรวจชุดปะฉะดะ พร้อมรถจักรยานยนต์สายตรวจ จำนวน 26 คัน และตำรวจนอกเครื่องแบบ อีก 80 คน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เชื่อว่าจะสามารถดูแลความปลอดภัยและป้องกันการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ บก.น.1 ได้

ขณะที่ นายภารินทร์กล่าวว่า ตนขับรถมาจากบางแคเพื่อจะไปทำธุระย่านเซ็นทรัลเวิลด์ โดยข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า แต่เกิดหลงทางเลี้ยวขวาเข้าไปทางสนามหลวง หน้าศาลฎีกา จนมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจค้นเจออาวุธปืนในรถดังกล่าว ซึ่งอาวุธปืนของตนมีทะเบียนแต่ไม่มีใบอนุญาตพกพา โดยซื้อมาจากดิโอลด์สยาม ในราคา 9 หมื่นกว่าบาท สาเหตุที่พกพาไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น