“พงศพัศ” แถลงเปิดบัญชี “ปลดทุกข์ครูน้อย”

โฆษก ตร. “พงศพัศ พงษ์เจริญ” จีบมือแบงก์กสิกรฯ เปิดบัญชีห้ามเบิกถอน-เว็บไซต์รับบริจาคเงินเพื่อปลดหนี้นอกระบบให้ “ครูน้อย”

วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านครูน้อย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรปุระ ผบก.สท. พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฏร์บูรณะ นายณัฐรฐนนท์ บัณฑิตศลานันทร์ ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฏร์บูรณะ และนางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย แถลงข่าวสรุปยอดหนี้เงินกู้นอกระบบที่ครูน้อยกู้มาช่วยเหลือเด็กที่ส่งเสียเลี้ยงดู หลังประนีประนอมกับเจ้าหนี้กว่า 23 ราย พร้อมมีการเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาราษฎร์บูรณะ เพื่อขอความอนุเคราะห์ผู้ใจบุญช่วยบริจาคสมทบทุนในการช่วยปลดหนี้

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า การเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้กว่า 23 ราย ที่ครูน้อยได้ไปกู้เงินมา ยอมรับว่าการเจรจาค่อนข้างลำบาก ทุกคนอยากได้เงินคืนหมด เจ้าหนี้ที่มีเงินกู้มากที่สุดพบว่ามียอด 1 ล้านกว่าบาท ส่วนเจ้าหนี้ที่มียอดเงินกู้น้อยที่สุดอยู่ที่ 5 หมื่นบาท ซึ่งการเจรจาเจ้าหนี้ทั้งหมดยอมลดวงเงินให้ทุกราย ยอดบริจาคภายหลังจากที่เป็นข่าวขอความช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 8-12 ก.พ. มีผู้ที่บริจาคเป็นเงินสด 104,570 บาท ผ่านเว็บไซต์ www.moobankru.com 460,000 บาท เช็คเงินสด 126,184 บาท บริจาคผ่านเว็บไซต์ล่าสุดอีก 40,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดรวม 730,754 บาท โดยขณะนี้ยังขาดอีก 4,955,246 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดขณะนี้ได้นำเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ ในชื่อบัญชี “ปลดทุกข์ครูน้อย” เลขที่ 745-2-59999-0 ซึ่งเป็นบัญชีที่เพิ่งเปิด ไม่สามารถเบิกถอนได้ และบัญชีจะปิดลงเมื่อได้เงินบริจาคครบกำหนด

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เนื่องในวันดังกล่าวเป็นวันตรุษจีน และวันแห่งความรัก จึงอยากขอความกรุณาชาวไทยทั้งเชื้อสายจีน หากมีการมอบแต๊ะเอีย ก็อยากให้ซองสุดท้ายที่ใส่ อยากให้ส่งมาให้ครูน้อยด้วย ส่วนคู่รักก็อยากให้ร่วมทำบุญช่วยบริจาคผ่านบัญชี โดยคาดว่าจะได้เงินครบและสามารถนำไปใช้คืนเจ้าหนี้กว่า 23 ราย ที่สำคัญอยากให้เป็นหนี้ก้อนสุดท้าย และเป็นบทเรียนของครูน้อยสำหรับเรื่องคณะกรรมการที่จะมีการตั้งขึ้นเพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลจัดการ ขณะนี้ทางครูหยุยก็ได้ตอบรับที่จะเข้ามาเป็นประธานกรรมการแล้ว โดยกรรมการชุดนี้จะมีทั้งหมด 5 คน คาดว่าในวันที่ 15 ก.พ.จะสามารถได้คณะกรรมการครบทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทำให้ทุกอย่างเกิดความโปร่งใส

ด้าน นางนวลน้อยกล่าวว่า ขอบคุณทุกๆ ส่วนที่ให้ความช่วยเหลือ ที่ผ่านมารับทุกข์ไว้เพียงคนเดียว ตอนเป็นหนี้ก็ไม่เคยทอดทิ้งเด็ก เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมาโดนโจมตีหนัก ทั้งเรื่องไปซื้อที่ดินต่างจังหวัด 70 ไร่ ซื้อรถยนต์ป้ายแดงให้ลูก ยอมรับว่าชอกช้ำใจมาก ยืนยันว่าการใช้ชีวิตตนเองและลูกๆเป็นคนสมถะ ปัจจุบันลูกคนโตจบปริญญา ทำงานได้เงินเดือนเดือนละ 50,000 บาท ยังคงใส่เสื้อเก่าๆ เป็นคนสมถะ โดยขณะที่แถลงข่าว ได้มีนางนิตยา (สงวนนามสกุล) ได้โผเข้ากอดครูน้อย พร้อมร้องไห้ โดยนางนิตยาคือผู้ที่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิกับครูน้อยมากว่า 20 ปี

ขณะที่ น.ส.พรทิพย์ สถาปนะ อายุ 21 ปี พนักงานต้อนรับร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยอยู่ในการอุปถัมภ์ของครูน้อยกล่าวว่า ตนเองเข้ามาอยู่กับครูน้อยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ช่วงเรียน ป.5 เนื่องจากพ่อไม่มีและแม่เสียชีวิต ครูน้อยก็เลี้ยงดูอย่างดี ส่งเสียจนเรียนจบ ปวช. เมื่อตนเองมีงานทำก็พยายามจะช่วยเหลือเรื่องเงินทองนำกลับมาบริจาค แต่ครูน้อยไม่เคยเอา เนื่องจากต้องการให้ตนเองทำงานและสามารถเลี้ยงดูตนเองได้ก็พอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านครูน้อยมีเด็กๆ กว่า 100 คน เดินทางมาเป็นกำลังใจให้ครูน้อย โดยภาคเอกชนได้ร่วมบริจาคอาหาร ขนมต่างๆ เพื่อนำมาแจกเด็ก โดยมีการเลี้ยงอาหารเด็กๆอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเด็กๆ ได้นำดอกกุหลาบสีแดง พร้อมสติกเกอร์หัวใจสีแดง มามอบให้กับครูน้อย นายตำรวจ พร้อมทั้งคณะผู้สื่อข่าว เนื่องในวันแห่งความรักด้วย สำหรับผู้สนใจร่วมบริจาค สามารถบริจาคได้ 3 ทางผ่านเว็บไซต์ www.moobankru.com ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ ในชื่อบัญชี “ปลดทุกข์ครูน้อย” เลขที่ 745-2-59999-0 หรือสามารถเดินทางมาบริจาคที่บ้านก็ได้