“ปทีป” สั่งรับมือม็อบแดงขู่บุก สตช.มั่นใจคุมได้-ไม่รุนแรง

"ปทีป ตันประเสริฐ" สั่งเตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังม็อบเสื้อแดงขู่บุก สตช. 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ผลการเฝ้าระวังม็อบใน 38 จังหวัด ยังไม่พบผิดปกติ ด้านนครบาล เพิ่มความเข้มปราบปรามอาชญากรรมช่วงตรุษจีน


วันนี้ (9 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางมาชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 10 ก.พ.ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่ากลุ่มเสื้อแดงจะมาเรียกร้องอะไรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม เราได้เตรียมกำลังไว้แล้วโดยมีกองบัญชาการตำรวจสันติบาลดูภายใน และกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแลรอบนอก พร้อมทั้งเตรียมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเฝ้าระวังไม่ให้มีมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย ตนเองเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ นอกจากนั้นยังกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาบริเวณด้านในสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเด็ดขาด ให้ชุมนุมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นใน 38 จังหวัด ตอนนี้ตั้งได้มา 3 วันแล้ว ซึ่งการเฝ้าติดตามยังไม่พบว่ามีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆ ทุกอย่างยังเป็นปกติไม่มีสัญญาณการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร ได้ลงนามบันทึกสั่งการถึง ผบก.น.1-9 และ ผบก.จร. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกหน่วยงานตั้งด่านตรวจจุดสกัดตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลตรุษจีนและป้องกันระงับอัคคีภัย โดยให้ปฏิบัติตามแผนดังนี้ ให้แต่ละ บก.ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในบริเวณสถานีขนส่ง ทุกแห่ง เส้นทางหลักและเส้นทางสำรองที่สำคัญ และสถานที่ที่คาดว่าจะมีปัญหาด้านการจราจร ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบสภาพการจราจรและแนะนำให้เปลี่ยนเส้นทาง เดินรถจากพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งไปยังพื้นที่ที่มีการจราจรเบาบางกว่า

รอง ผบช.น.กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการจัดการจราจรให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพื้นที่และ สถานการณ์ให้มากที่สุด เช่น วันจ่ายและวันเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งการจราจรในวันดังกล่าวจะคับคั่งเป็นพิเศษและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีความผิดที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจร 10 ฐานความผิด คือ ขับรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถจักรยานยนต์ที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ขับรถขณะเมาสุรา ขับรถยนต์โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ขับรถแซงในที่คับขันหรือเขตปลอดภัย ขับรถย้อนศร และโทรศัพท์ขณะขับรถ