ASTVผู้จัดการ - สันติบาลเตือนตำรวจทุกหน่วย ป้องกันเหตุระเบิดคืนเคานต์ดาวน์ หลังพบ 2 นายพลเสื้อแดงออกนอกประเทศ ตัดตอนถูกโยงหลังสั่งก่อเหตุบึ้มดิสเครดิตรัฐบาล "ปทีป" ย้ำอย่าประมาท นครบาลเตรียมพร้อมเน้นดูแลความปลอดภัยจุดจัดงานลานเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมประสาน กทม.คุมเข้มป้องกันเหตุอัคคีภัยซ้ำรอยเดิม
วานนี้ (29 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่า หน่วยข่าวของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้แจ้งเตือนไปยังตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่าจะมีการลอบก่อเหตุวางระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งหน่วยงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายจะลงมือได้แก่ ห้างสรรพสินค้าโดยรอบชานเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ป้องกันระดับสอง มีคนจำนวนมาก เข้าไปรวมกันอยู่ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนชั้นกลาง ไม่มีบุคคลสำคัญระดับชาติไปอยู่ในบริเวณนั้นมากนัก ทำให้การลอบเข้าไปก่อนเหตุสามารถกระทำได้ง่าย ซึ่งพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ห้างเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารังสิต ส่วนพื้นที่ชั้นในที่มีการป้องกันระดับหนึ่งคาดว่าคนร้ายจะไม่กล้าลงมือ เนื่องจากมีการเฝ้าระวังระดับสูงสุด
หน่วยงานข่าวยังแจ้งอีกว่า ขณะนี้ได้มีทหารยศนายพล 2 คน ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับกลุ่มคนเสื้อแดง และมีศักยภาพในการสั่งการ ขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เพื่อตัดความเชื่อมโยงหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น สำหรับระเบิดที่นำมาจะใช้ เป็นระเบิดที่มีอานุภาพไม่รุนแรง เพียงแค่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ต้องการดิสเครดิตรัฐบาลในการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ สำหรับห้วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ระหว่างช่วงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 31 ธ.ค.2552 จนถึงเวลา 00.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.2553
“ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะพยายามก่อเหตุในพื้นที่ โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีความพยายามประสานการข่าวกับเจ้าหน้าที่ โดยให้กลุ่มแนวร่วม ซึ่งเป็นวัยรุ่นจำนวน 6 คน จาก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ไปถ่ายรูปห้างสรรพสินค้าไดอาน่าใน อ.หาดใหญ่ จ.สงลา ตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนเป็นที่ผิดสังเกตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุม โดยหลอกว่าจะมีการลงมือก่อเหตุตามห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ แต่ที่จริงจะมีการลอบก่อเหตุในมัสยิด หรือศาสนสถานในพื้นที่ ซึ่งได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบแล้ว”หน่วยข่าวระบุ
**"ปทีป-สัณฐาน"เตือนอย่าประมาท
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ระดับรอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.จร. ผกก.ทุก สน. ตำรวจม้า ตำรวจสุนัข และตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อประชุมเรื่องแผนและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น.กล่าวว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เตรียมพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจในกรณีที่ต้องดูแลความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ ซึ่ง บช.น.เป็นหน่วยที่คอยชี้แจงการทำงานทั้งหมดในการดูแลความเรียบร้อย สำหรับการข่าวในขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวในการก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสิรฐ รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งการให้ทุกหน่วยอย่าประมาท และยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมทั้งหมดตามแผนปฏิบัติตามเดิม
**เน้นดูแลความปลอดภัยจุดจัดงาน
สำหรับแผนดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ กทม.นั้น เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน โดยจะมีการเน้นจุดสถานที่จัดงานจุดใหญ่ทั้งหมด 39 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 21 สน. สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน.ตั้งจุดตรวจอย่างน้อย สน.ละ 2 จุด และตั้งจุดตรวจค้นทางเข้าออก กทม.ทั้งหมด 10 จุด ตลอด 24 ชม.เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชน และได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านช่วยตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งอาจใช้โอกาสในช่วงเทศกาลปีใหม่ลักลอบขนเข้ามา
**ประสาน กทม.ป้องกันเพลิงไหม้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ยังได้ประสานไปยัง กทม.เพิ่มเติมในเรื่องความปลอดภัยและอัคคีภัย ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นปีที่แล้ว โดยทาง กทม.ได้เตรียมแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลางไว้ที่ บช.น.ศูนย์ส่วนหน้าอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และตั้งศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ที่บริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม.
โฆษก บช.น.กล่าวว่า ผบก.น.1-9 จะเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ และ ผบช.น.ยังลงปฏิบัติงานอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกใช้เจ้าหน้าที่ 1,700 นาย และรอบสอง 2,697 นาย รวมทั้งสิ้น 4,400 นาย โดยดูแลพื้นที่ตั้งแต่สยามพารากอน, แยกราชประสงค์, สวนลุมไนท์บาร์ซา และประตูน้ำ เพื่อรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่การจัดงานทั้งหมด
อย่างไรก็ตามได้ขอความช่วยเหลือทางทหารไปแล้ว และจะให้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศเดินร่วมตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ 150 นาย และกำลังหนุนอีก 3 กองร้อย
สำหรับ กทม.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจ อาสาสมัครต่างๆ เตรียมพร้อมไว้ให้ทั้งหมด 50 เขต ซึ่งเพื่อรองรับเกิดเหตุฉุนเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยได้มีการสั่งการเพิ่มเติมสำหรับกรณีพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลตลอด 24 ชม. ทั้งหมด 15 จุด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
**ระดมพลดูแลสถานีขนส่ง
นอกจากนี้ ในวันนี้ 30 ธ.ค. เวลา 13.00 น.จะมีการปล่อยแถวระดมพลบริเวณสถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งสายเหนือ และสถานีขนส่งตะวันออก พร้อมกันทั้งหมด ซึ่ง พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งการกำชับเพิ่มเติมให้หัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีไปประชาสัมพันธ์ให้กับห้างร้าน สถานบริการ ห้ามจุดพลุ และหากมีการฝ่าฝืนจะมีการดำเนินการทางกฎหมายทันที สำหรับผู้ค้าหากไม่มีใบอนุญาต จะดำเนินการทางกฎหมายเช่นกัน
สื่อข่าวถามว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการรวมตัวของแก๊งซิ่งหรือเด็กแว้นออกมาขับขี่รถจยย.ป่วนเมืองนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น. ดูแลเรื่องกิจการพิเศษ, พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผชน.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร, พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชอัตรา รอง ผบช.น. ดูแลเรื่องการป้องกันอาชญากรรม และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ดูแลเรื่องกฎหมาย ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับกลุ่มนักซิ่งที่ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่สร้างความรำคาญแก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และยังได้มีกฎหมายขึ้นมาอีก 1 ฉบับ เพื่อเอาผิดต่อผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานออกมาขับขี่รถบนท้องถนนสร้างความเดือดร้อนด้วย.
วานนี้ (29 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่า หน่วยข่าวของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้แจ้งเตือนไปยังตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่าจะมีการลอบก่อเหตุวางระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งหน่วยงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายจะลงมือได้แก่ ห้างสรรพสินค้าโดยรอบชานเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ป้องกันระดับสอง มีคนจำนวนมาก เข้าไปรวมกันอยู่ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนชั้นกลาง ไม่มีบุคคลสำคัญระดับชาติไปอยู่ในบริเวณนั้นมากนัก ทำให้การลอบเข้าไปก่อนเหตุสามารถกระทำได้ง่าย ซึ่งพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ห้างเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารังสิต ส่วนพื้นที่ชั้นในที่มีการป้องกันระดับหนึ่งคาดว่าคนร้ายจะไม่กล้าลงมือ เนื่องจากมีการเฝ้าระวังระดับสูงสุด
หน่วยงานข่าวยังแจ้งอีกว่า ขณะนี้ได้มีทหารยศนายพล 2 คน ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับกลุ่มคนเสื้อแดง และมีศักยภาพในการสั่งการ ขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เพื่อตัดความเชื่อมโยงหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น สำหรับระเบิดที่นำมาจะใช้ เป็นระเบิดที่มีอานุภาพไม่รุนแรง เพียงแค่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ต้องการดิสเครดิตรัฐบาลในการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ สำหรับห้วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ระหว่างช่วงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 31 ธ.ค.2552 จนถึงเวลา 00.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.2553
“ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะพยายามก่อเหตุในพื้นที่ โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีความพยายามประสานการข่าวกับเจ้าหน้าที่ โดยให้กลุ่มแนวร่วม ซึ่งเป็นวัยรุ่นจำนวน 6 คน จาก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ไปถ่ายรูปห้างสรรพสินค้าไดอาน่าใน อ.หาดใหญ่ จ.สงลา ตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนเป็นที่ผิดสังเกตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุม โดยหลอกว่าจะมีการลงมือก่อเหตุตามห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ แต่ที่จริงจะมีการลอบก่อเหตุในมัสยิด หรือศาสนสถานในพื้นที่ ซึ่งได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบแล้ว”หน่วยข่าวระบุ
**"ปทีป-สัณฐาน"เตือนอย่าประมาท
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ระดับรอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.จร. ผกก.ทุก สน. ตำรวจม้า ตำรวจสุนัข และตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อประชุมเรื่องแผนและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น.กล่าวว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เตรียมพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจในกรณีที่ต้องดูแลความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ ซึ่ง บช.น.เป็นหน่วยที่คอยชี้แจงการทำงานทั้งหมดในการดูแลความเรียบร้อย สำหรับการข่าวในขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวในการก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสิรฐ รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งการให้ทุกหน่วยอย่าประมาท และยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมทั้งหมดตามแผนปฏิบัติตามเดิม
**เน้นดูแลความปลอดภัยจุดจัดงาน
สำหรับแผนดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ กทม.นั้น เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน โดยจะมีการเน้นจุดสถานที่จัดงานจุดใหญ่ทั้งหมด 39 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 21 สน. สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน.ตั้งจุดตรวจอย่างน้อย สน.ละ 2 จุด และตั้งจุดตรวจค้นทางเข้าออก กทม.ทั้งหมด 10 จุด ตลอด 24 ชม.เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชน และได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านช่วยตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งอาจใช้โอกาสในช่วงเทศกาลปีใหม่ลักลอบขนเข้ามา
**ประสาน กทม.ป้องกันเพลิงไหม้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ยังได้ประสานไปยัง กทม.เพิ่มเติมในเรื่องความปลอดภัยและอัคคีภัย ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นปีที่แล้ว โดยทาง กทม.ได้เตรียมแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลางไว้ที่ บช.น.ศูนย์ส่วนหน้าอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และตั้งศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ที่บริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม.
โฆษก บช.น.กล่าวว่า ผบก.น.1-9 จะเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ และ ผบช.น.ยังลงปฏิบัติงานอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกใช้เจ้าหน้าที่ 1,700 นาย และรอบสอง 2,697 นาย รวมทั้งสิ้น 4,400 นาย โดยดูแลพื้นที่ตั้งแต่สยามพารากอน, แยกราชประสงค์, สวนลุมไนท์บาร์ซา และประตูน้ำ เพื่อรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่การจัดงานทั้งหมด
อย่างไรก็ตามได้ขอความช่วยเหลือทางทหารไปแล้ว และจะให้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศเดินร่วมตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ 150 นาย และกำลังหนุนอีก 3 กองร้อย
สำหรับ กทม.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจ อาสาสมัครต่างๆ เตรียมพร้อมไว้ให้ทั้งหมด 50 เขต ซึ่งเพื่อรองรับเกิดเหตุฉุนเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยได้มีการสั่งการเพิ่มเติมสำหรับกรณีพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลตลอด 24 ชม. ทั้งหมด 15 จุด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
**ระดมพลดูแลสถานีขนส่ง
นอกจากนี้ ในวันนี้ 30 ธ.ค. เวลา 13.00 น.จะมีการปล่อยแถวระดมพลบริเวณสถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งสายเหนือ และสถานีขนส่งตะวันออก พร้อมกันทั้งหมด ซึ่ง พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งการกำชับเพิ่มเติมให้หัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีไปประชาสัมพันธ์ให้กับห้างร้าน สถานบริการ ห้ามจุดพลุ และหากมีการฝ่าฝืนจะมีการดำเนินการทางกฎหมายทันที สำหรับผู้ค้าหากไม่มีใบอนุญาต จะดำเนินการทางกฎหมายเช่นกัน
สื่อข่าวถามว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการรวมตัวของแก๊งซิ่งหรือเด็กแว้นออกมาขับขี่รถจยย.ป่วนเมืองนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น. ดูแลเรื่องกิจการพิเศษ, พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผชน.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร, พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชอัตรา รอง ผบช.น. ดูแลเรื่องการป้องกันอาชญากรรม และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ดูแลเรื่องกฎหมาย ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับกลุ่มนักซิ่งที่ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่สร้างความรำคาญแก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และยังได้มีกฎหมายขึ้นมาอีก 1 ฉบับ เพื่อเอาผิดต่อผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานออกมาขับขี่รถบนท้องถนนสร้างความเดือดร้อนด้วย.
