“อัมรี เจ๊ะโซ๊ะ” มือระเบิดคาร์บอมบ์ สภ.สุไหงโก-ลก เข้ามอบตัวสู้คดีและขอความเป็นธรรมกับอธิบดีดีเอสไอ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกิดขึ้น เจ้าตัวระบุมั่นใจดีเอสไอจะให้ความเป็นธรรม เชื่อหากได้รับความเป็นธรรมจะมีพรรคพวกมามอบตัวอีก ด้าน “ธาริต” ยันจะปฏิบัติกับผู้ต้องหาให้ดีที่สุด ก่อนจับสอบปากคำแจ้งข้อหาก่อการร้าย-อั้งยี่-ฆ่าผู้อื่น-ครอบครองระเบิดและปล่อยตัวไป
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไ อ แถลงข่าวว่า นายอัมรี เจ๊ะโซ๊ะ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดรถยนต์ (คาร์บอมบ์) น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม ที่หน้า สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้นายชาลี บุญสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2551 ได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอความเป็นธรรมและต่อสู้คดีดังกล่าว โดยมีนายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.จ.นราธิวาส เป็นคนพาเข้ามอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องให้การภาคเสธ
นายธาริตกล่าวว่า นายอัมรี เจ๊ะโซ๊ะ เป็นผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายคดี เช่น เหตุ ระเบิดรถยนต์ ที่หน้าโรงแรมเมอร์ลิน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 และเหตุระเบิดรถยนต์ที่ หน้าโรงแรมมารีน่า อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อเดือน ก.พ.2548 และสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายกองพันทหารพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ด้วย
ทั้งนี้ ว่าสืบเนื่องจากที่ประชุม กคพ.ได้มีมติรับคดีระเบิดรถยนต์หน้า สภ.สุไหงโก-ลก เป็นคดีพิเศษ ที่ 68/2551 จากนั้นกลุ่มงานคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ได้ดำเนินการสืบสวนและรวมรวมพยานหลักฐาน พร้อมออกหมายจับ นายอัมรี เจ๊ะโซ๊ะ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว นอกจากนี้จากการพูดคุยผู้ต้องหาได้ขอเข้ามอบตัว เนื่องจากเชื่อมั่นว่าหน่วยงานดีเอสไอจะสามารถให้ความเป็นธรรมและดูแลความปลอดภัยได้ ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาได้รับความเป็นธรรม ก็จะมีผู้ต้องหาอีกหลายรายทยอยเข้ามอบตัวเพิ่มเติม ซึ่งดีเอสไอจะสอบปากคำผู้ต้องหาเพื่อสืบสวนหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเกี่ยวข้องเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
“เขามีความเชื่อมั่นว่าการเข้ามาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ดีกว่าการต่อสู้หลบหนีอยู่ในป่า โดยเป็นเหมือนหัวหอกหรือผู้นำคนแรกๆ ที่จะเข้ามามอบตัวเพื่อพิจารณาว่ารัฐจะให้ความป็นธรรมอย่างเพียงพอตรงไปตรงมาหรือไม่ หลังจากนั้น มีแนวโน้มตรงกันทั้งจากการข่าวและสอบปากคำผู้ต้องหาว่า หากรัฐดูแลผู้ต้องหาอย่างถูกต้อง จะมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ติดต่อเข้ามอบตัวอีก และยืนยันว่าเราจะปฏิบัติกับผู้ต้องหาให้ดีที่สุดตามกรอบของกฎหมาย” อธิบดีดีเอสไอกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้า สภ.สุไหงโก-ลก ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนที่ทำคดีมาตั้งแต่ต้น ได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 7 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 6 ราย เหลือเพียงนายอัมรี เจ๊ะโซ๊ะ ซึ่งแนวทางสืบสวนพบว่ามีส่วนครอบครองและมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งแรก ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ครั้งที่สอง จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
“ผู้ต้องหาต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และพร้อมจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางคดี จึงได้เข้ามอบตัว แต่เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคง อาจจะเกิดอันตรายกับผู้ต้องหาได้ ทางดีเอสไอจึงไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาถ่ายภาพและแถลงข่าวได้” โฆษกดีเอสไอกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้สอบปากคำและแจ้งข้อหาร่วมกันก่อการร้าย หรือสนับสนุนการก่อการร้าย ข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และข้อหาร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายมีผู้อื่นรับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย จากนั้นหลังสอบปากคำเสร็จ ดีเอสไอจะปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้อยู่ในความคุ้มครองพยานของดีเอสไอ