ตำรวจสืบสวน สน.บางโพงพาง โชว์ผลงานจับกุมเอเยนต์ค้ายารายใหญ่ พร้อมยาบ้าของกลางกว่า 2 หมื่นเม็ด สารภาพเคยเป็นอดีตนักฟุตบอล ระดับถ้วย ง. แต่ไม่รุ่งแถมล่าสุดตกงานแต่ต้องเลี้ยงครอบครัวและรักษาลูกที่ป่วยโรคหัวใจจึงตัดสินใจค้ายา
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วันชัย ชูจิต สว.สส.สน.บางโพ ช่วยราชการ บก.สส.บช.น. แถลงข่าวจับกุมนายธรรมนรา ม่วงมั่งคั่ง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ซอยโกมลกนก แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 22,000 เม็ด มูลค่า 1.87 ล้านบาท กระเป๋าเป้สะพายหลังสีดำ 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ปากซอยพัฒนาการ 69 แขวงและเขตประเวศ กทม.
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งยาบ้าให้กับลูกค้ารายย่อยที่ปากซอยพัฒนาการ 69 พ.ต.ท.วันชัย ชูจิต จึงนำกำลังไปดักซุ่ม เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายธรรมนราซึ่งมีลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้งไว้ได้เดินมาที่จุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นก็พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมายัง สน.บางโพงพาง
จากการสอบสวนนายธรรมนราให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนเคยเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีมฟุตบอลบางเตย แข่งขันในระดับถ้วย ง. แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงต้องออกมาหางานทำตามบริษัทต่างๆ ล่าสุดทำงานเป็นช่างตัดเย็บอยู่บริษัทผลิตเครื่องนอนแห่งหนึ่ง แต่บริษัทก็มัปัญหาจนล้มละลายทำให้ต้องตกงานไม่มีรายได้ แต่ยังมีภาระต้องเลี้ยงดูแม่ ภรรยา และลูกๆ อีก 3 คน รวมทั้งหมด 6 ชีวิตโดยเฉพาะลูกคนเล็ก อายุ 9 เดือน ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ต้องพาไปหาหมอดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด
“ผมจึงตัดสินใจหันมาค้ายาบ้าโดยได้เบอร์โทร.ของเอเยนต์คนหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มาจากเพื่อน พอตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็เริ่มรับยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้ารายย่อยในชุมชนต่างๆ ในเขตคลองเตย และพระโขนง ช่วงที่ผ่านมาประมาณปีกว่าทำมาแล้ว 6 ครั้งได้เงินมาประมาณ 1 ล้าน แต่ต้องนำไปใช้รักษาลูก และดูแลครอบครัว” นายธรรมนราให้การ
นายธรรมนรากล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการสั่งยาบ้านั้นตนจะโทรสั่งซื้อจากเอเยนต์ที่ จ.เชียงใหม่ ในราคามัดละ 170,000 บาท จากนั้น ก็จะว่าจ้างลูกน้องครั้งละ 50,000 บาท นั่งเครื่องบินไปตรวจดูยา เมื่อเป็นที่พอใจแล้วก็จะให้ลูกน้องนำยาบ้ามาพันไว้รอบตัว แล้วให้นั่งรถไฟกลับมาส่งให้ตนที่ กทม. จากนั้นตนก็จะไปรับมากระจายขายให้ลูกค้าในชุมชนในราคามัดละ 190,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี และขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป