หาม นร.เกือบร้อยส่ง รพ. กินยากันครูตีเจ็บเกิดหน้ามืด-อาเจียนถ้วนหน้า

เด็กนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดท่าพระ เอายาแก้ไอที่ซื้อมาจากร้านเกมเป็นเม็ดมาขายให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนเม็ดละบาท อ้างกินแล้วถูกครูตีไม่เจ็บ แต่เกือบ 100 คน เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม อาเจียน ต้องหามส่งโรงพยาบาลกันโกลาหล

วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.กฤต ตันธนสิริกุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ท่าพระ รับแจ้งมีเหตุเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดท่าพระ ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ มีอาการป่วยพร้อมกันกว่า 50 คน จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลตากสิน บางไผ่ และพญาไท 3 รุดไปตรวจสอบ ก็พบเด็กนักเรียนระดับชั้น ป.4-6 ของโรงเรียนดังกล่าว มีอาการหน้ามืด เป็นลม และอาเจียน เจ้าหน้าที่จึงรีบแยกย้ายพานักเรียนไปส่งตามโรงพยาบาลต่างๆ ทันที

จากการสอบถาม น.ส.เบญจมาศ รอดสุทธิ รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการ รักษาการแทน ผอ.โรงเรียนวัดท่าพระ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ว่ามีเด็กนักเรียนชั้น ป.6 นำยาซึ่งบางคนบอกว่าเป็นยาแก้ไอ บางคนก็บอกว่าเป็นวิตามินซี เข้ามาขายให้เด็กนักเรียนในโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ประกาศเตือนนักเรียนไม่ให้กินทันที พร้อมทั้งให้อาจารย์แยกย้ายกันไปตรวจสอบหาตัวยาดังกล่าว แต่หลังจากประกาศไปได้ไม่นานก็พบว่ามีนักเรียนป่วยหน้ามืด เป็นลม บางคนถึงกับอาเจียน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนำส่งโรงพยาบาล

น.ส.เบญจมาศ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ยาชนิดนี้มีเด็กนักเรียนชั้น ป.6 นำเข้ามาขายในโรงเรียน โดยอ้างว่าไปซื้อมาจากร้านเกมในราคาเม็ดละ 5-10 บาท เป็นยาที่กินแล้วจะมีความกล้า ร่าเริง ครูตีแล้วไม่เจ็บ ทำให้เกิดความนิยมในกลุ่มเด็กนักเรียน ทั้งนี้เมื่อ 2 วันก่อนก็มีเด็กที่มีอาการป่วยแบบนี้แล้ว 1 ราย เมื่อสอบถามก็ทราบว่ากินยาแก้ไอเข้าไป โดยทางโรงเรียนก็พยายามรีบหาต้นตอที่มาของยาตัวนี้แล้วแต่ไม่พบ

ด้าน นางกิติยา ศรีเลิศฟ้า ผอ.โรงพยาบาลตากสิน กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลรับเด็กนักเรียนที่มีอาการป่วยเข้ามารักษาตัวทั้งหมด 44 ราย โดยมีจำนวนมีอยู่ 12 ราย ที่ทางโรงพยาบาลต้องรีบล้างท้องช่วยเหลือทันที ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรอดูอาการ สำหรับตัวยาที่เด็กกินเข้าไปนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยา DEXTROMETHORPHAN เป็นยาแก้ไอมีผลต่อระบบประสาท ซึ่งมีผลทำให้หัวใจเต้นเร็ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะกินเข้าไปมากน้อยแค่ไหน แต่ปกติจะกินครั้งละไม่เกิน 2 เม็ด อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้จะขายในร้านขายยาเท่านั้น หากไม่มีใบอนุญาตก็ไม่สามารถขายได้ และหากร้านเกมนำไปขายอย่างที่เด็กนักเรียนบอกจริงก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่กินยาตัวนี้เข้าไปแล้วเกิดอาการป่วย บอกว่า ซื้อยามาจากเด็กนักเรียนชั้น ป.6 ที่ชื่อ โมะ ในราคาเม็ดละ 1 บาท เพื่อกินแก้ไอ ส่วนคนที่ไม่ได้มีอาการไอก็กินลองกินเข้าไปเพราะความอยากลอง เนื่องจากเชื่อว่ากินแล้วครูตีแล้วจะไม่เจ็บ

ด้าน นายสานิตย์ แก้วละคน ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่มีอาการป่วย กล่าวว่า ทราบเรื่องยาตั้วนี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว โดยลูกเป็นคนมาบอกว่า มีเพื่อนในโรงเรียนเอาวิตามินมาขาย สามารถแก้ไอได้ กินเข้าไปแล้วจะมีอาการคล้ายกับเมาอ่อนๆ ร่าเริง และเชื่อกันว่าครูตีจะไม่เจ็บ ตนก็ได้ห้ามลูกไม่ให้กินแล้ว พร้อมทั้มาประสานให้โรงเรียนทราบในตอนเช้า แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่สำนักอนามัยของกทม.เดินทางมาขอนำตัวยาดังกล่าวไปตรวจสอบว่าเป็นยาอะไร ขณะเดียวกัน บรรดาผู้ปกครองที่ลูกหลานตัวเองเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท 3 นั้น ก็เกิดความกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้เมื่อบรรดาผู้ปกครองไปสอบถามเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลกลับยังระบุไม่ได้ จึงจะขอย้ายลูกหลานไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตากสินแทน

ต่อมา พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.เดินทางเข้าเยี่ยมนักเรียนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตากสิน ก่อนเปิดเผยว่า สำกรับเด็กนักเรียนที่รักษาตัวอยู่ตามโรพยาบาลต่างนั้นมีทั้งหมด 83 คน แบ่งเป็นโรงพยาบาลตากสิน จำนวน 44 คน โรงพยาบาลพญาไท 3 จำนวน 33 คน และโรงพยาบาลบางไผ่อีก 3 คน และตนก็รับทราบปัญหาเรื่องที่ผู้ปกครองเป็นกังวลค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลพญาไท 3 แล้ว โดยตนได้ประสานไปยังโรงพยาบาลตากสินให้เตรียมรับเด็กนักเรียนเข้ามารักษาเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานให้รถมูลนิธิและรถพยาบาลไปรับนักเรียนทั้ง 36 คนที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลพญาไท 3 มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตากสิน ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้น ตนจะโทรศัพท์ไปคุยกับทางโรงพยาบาลพญาไท 3 อีกครั้ง และฝากถึงผู้ปกครองทุกคนด้วยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอตัวนักเรียนที่อาการดีขึ้นแล้วไปชี้ร้านเกมที่อ้างว่าได้ซื้อยาแก้ไอมาจากร้านดังกล่าว โดยพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 15/23 ตั้งอยู่บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 1 ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนวัดท่าพระ ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่า ร้านเกมดังกล่าวนั้นปิดอยู่ จึงเรียกให้เปิด ซึ่งพบนายสุวมิตร หรืออั๋น มนตรีวิบูลย์ชัย อายุ 24 ปี รับเป็นผู้ดูแลร้าน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.ท่าพระ

จากการสอบสวนนายสุวมิตรให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขายยาดังกล่าวจริง โดยเริ่มจากซื้อมากินเอง เนื่องจากมีอาการไอ ซึ่งภายหลังจากกินไปได้สักพักก็รู้ว่าหากกินยาตัวนี้ไปปริมาณมาก จะรู้สึกระชุ่มกระชวย จึงบอกต่อกับเพื่อนๆ ไป จนภายหลังมีเด็กมัธยมที่เข้ามานั่งเล่นเกมในร้านรู้เรื่องนี้เข้า แล้วมาขอซื้อจากตน โดยที่ตนไม่รู้ว่าซื้อไปเพื่ออะไร

นายสุวมิตรให้การต่อว่า ตนเริ่มขายมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วเริ่มแปลกใจว่าจำนวนเด็กที่มาซื้อยามีปริมาณมากขึ้น แต่ตนก็ไม่ได้ขายเอากำไรอะไร ซื้อมาเม็ดละ 1 บาท ก็ขายต่อไปในราคาเดียวกัน ส่วนเด็กชั้นประถมที่กินยาเข้าไปจนต้องหามส่งโรงพยาบาลในวันนี้นั้น ตนไม่ได้เป็นคนขายให้ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยม