xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” สั่งสอบด่วนเหตุ นร.ท่าพระ อย.ชี้ยาออกฤทธิ์ระบบหายใจ กินมากถึงตาย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพเหตุการณ์เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดท่าพระเกิดความผิดปกติหลังกินยาแก้ไอชนิดเม็ดเข้าไป จนต้องส่งรพ. (ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต)
จากกรณีที่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดท่าพระ ซึ่งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 จำนวน กว่า 50 คน มีอาการอาเจียน เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หลังกินขนมคล้ายยาแก้แพ้เข้าไป ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางไผ่ และโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน อย.ชี้ยาที่เด็ก ร.ร.วัดท่าพระ กินยาแล้วอ้วกนับ 100 ราย ราย เป็นยาแก้ไอ มีฤทธิ์ต่อระบบหายใจ กินเกินขนาดถึงตายได้ เตือนอย่าหลงเชื่อผิดๆ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งแพทย์ด้านระบาดวิทยา และนักวิชาการจากสำนักระบาดวิทยา จำนวน 2 คน ลงไปสอบสวนโรคร่วมกับทีมของกทม. ที่โรงเรียนวัดท่าพระเป็นการด่วน และสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลงไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เด็กกินเข้าไป พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามีสิ่งปนเปื้อนอันตรายหรือไม่ และเป็นอาหารที่ได้มาตรฐานหรือไม่ ผ่านการขึ้นทะเบียน อย.หรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะมีโทษตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ล่าสุดเวลา 15.00 น. เด็กนักเรียนที่มีอาการป่วยทุกรายอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามอาการทุกวัน เพื่อสอบสวนโรคต่อไป ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนให้ครูโรงเรียนต่างๆ ช่วยตรวจสอบ กวดขันร้านค้าที่จำหน่ายอาหารและขนม หากเป็นขนมที่มาจากโรงงานขอให้เข้มงวดในเรื่องมาตรฐาน อย. ขนมทุกซองต้องมีตรา อย. กำกับ เพื่อแสดงถึงความปลอดภัย หากขนมเหล่านี้ไม่มีตรา อย. ขอให้แจ้งสายด่วน 1556 เพื่อกวาดล้าง คุ้มครองความปลอดภัยให้เด็ก จะได้ปลอดภัยจากอาหารไม่ได้มาตรฐาน

ด้าน นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนท่าพระ สอบถามเด็กนักเรียนพบว่า เด็กส่วนใหญ่ซื้อยาดังกล่าวมาจากร้านเกมส์ โดยร้านเกมได้ให้ข้อมูลว่าซื้อจากร้านขายยา จึงตามไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองยา พบว่าเป็นยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) ซึ่งเป็นยาแก้ไอที่มีฤทธิ์กดประสาทเล็กน้อย เพื่อระงับอาการไอ หากกินมากจะง่วงซึม มึนงง และอาเจียน ต้องมีทะเบียนยาควบคุมการจำหน่าย และจำหน่ายโดยเภสัชกร ขณะนี้ กำลังตรวจสอบใบอนุญาตจำหน่ายยา และทะเบียนคุมยา

ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงเสริมว่า ยาดังกล่าวถือเป็นยาอันตรายต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น โดยเป็นยาที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาททำให้หยุดไอ แต่จะมีอาการข้างเคียงคือ เบลอ งง และง่วง หากรับประทานเกินขนาดจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตเพราะจะกดระบบประสาทที่สั่งการ การหายใจให้หยุดทำงานได้

“ถือเป็นความเชื่อที่ผิดโดยสิ้นเชิงที่กล่าวกินแล้วจะรู้สึกเรียนดี เล่นเกมส์ได้นาน หรือครูตีแล้วไม่เจ็บ เพราะยาดังกล่าวมีฤทธิ์เพียงแก้ไอเท่านั้น โดยไม่ได้อยู่ในกลุ่มสารเสพติดที่กินแล้วจะสนุกสนานหรือเคลิบเคลิ้มได้ ตรงกันข้าม หากกินเกินขนาดก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยดูแลและสอนให้ลูกหลานไม่กินยาที่ไม่รู้จักโดยเชื่อคำชวนจากผู้อื่น” ภญ.วีรวรรณ กล่าว

ภญ.วีรวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับยาดังกล่าวมีฤทธิ์คล้ายโคเดอีน ที่มีการสั่งระงับการขายไปแล้ว แต่ยาเด็กโตเมนโทแฟนยังสามารถใช้ได้เพราะตัวยาน้อยและออกฤทธิ์เสพติดน้อยกว่า แต่ก็ยังถือเป็นยาอันตรายที่ต้องสั่งจ่ายในร้านขายยาหรือโรงพยาบาลเท่านั้น โดยปริมาณสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่วันละไม่เกิน 8 เม็ด และเด็กวันละไม่เกิน 4 เม็ด ทั้งนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเพื่อหาว่ามีการนำยามาจากแหล่งใด หากพบว่านำมาจากร้านขายยาก็ถือว่ามีความผิดเช่นกันเพราะขายให้กับเด็ก แต่หากไม่ได้ขายโดยเภสัชกรก็จะถือว่ามีความผิดในทางอาญา

กำลังโหลดความคิดเห็น