เด็กนักเรียนโรงเรียนท่าพระ กทม.ร่วมร้อยอาการปลอดภัยแล้ว หลังกินยาแก้ไอเม็ดสีเหลืองที่รุ่นพี่เอาให้ให้จากร้านเกม โดย กทม.รักษาฟรี ด้าน “หมอมาลินี” เผยมีฤทธิ์คล้ายใบกระท่อม กินแล้วเคลิ้ม ขณะที่ “ทยา” สั่งเทศกิจบางกอกใหญ่ลงพื้นที่หาร้านเกมต้นเหตุ พร้อมเตรียมเรียกประชุมเทศกิจสัปดาห์หน้าคุมร้านเกม ร้านขายยา
นายชัยธวัช อยู่สำราญ ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ เปิดเผยถึงกรณีที่มีนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ของโรงเรียนวัดท่าพระ สังกัด กทม. เขตบางกอกใหญ่ จำนวน 85 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการอาเจียน และวิงเวียนศีรษะว่า จากการสอบถามผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวทราบว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ทางโรงเรียนได้นำนักเรียนส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลบางไผ่ และโรงพยาบาลพญาไท 3 เนื่องจากนักเรียนกลุ่มดังกล่าวมีอาการอาเจียน เบลอ และมีอาการมึน และจากการสอบถามนักเรียนที่มีอาการพบว่า ได้กินยาแก้ไอ ลักษณะเม็ดกลมสีเหลือง ขนาดเล็ก ที่รุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นำมาขายให้ในราคาเม็ดละ 1 บาท เบื้องต้นทราบว่ายาดังกล่าวรุ่นพี่ ป.6 นำมาจากร้านเกม ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียน
ส่วนการสอบสวนรายละเอียดเด็กนักเรียนที่ซื้อยาดังกล่าวมาจำหน่ายนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการของโรงเรียน
ด้านนางกิตติยา ศรีเลิศฟ้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากสิน เปิดเผยว่า มีเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดท่าพระเข้ามารักษาตัวด้วยการอาเจียน เบลอ จำนวน 52 คน ทั้งนี้มีนักเรียนจำนวน 10 คนที่อาการรุนแรง ต้องทำการล้างท้องอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นเด็กทั้ง 10 อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว สำหรับยาที่เด็กกลุ่มดังกล่าวรับประทานและมีอาการดังกล่าวนั้นจากการตรวจสอบพบว่า เป็นยา Destromethophan ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ที่ไว้รักษาผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด และไม่พบว่าเป็นสารเสพติดให้โทษแต่อย่างใด สำหรับอาการที่เกิดขึ้นนั้น จากการสอบถามนักเรียนทราบว่าได้กินยาไปจำนวนหลายเม็ด คือ 10-23 เม็ดในครั้งเดียว ซึ่งตนเข้าใจว่าเด็กอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้หลักวิธีกินยาที่ถูกต้อง คือ ทานหลังอาหาร ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 เวลา หรือกินตามแพทย์สั่ง อย่างไรก็ตามตนอยากฝากไปยังผู้ปกครอง หรือ ครูประจำชั้นเรียน ให้ความรู้เกี่ยวกับการกินยาอย่างถูกวิธีด้วย
ส่วน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยี่ยมนักเรียนป่วย ที่โรงพยาบาลตากสินว่า ตามหลักการแพทย์แล้ว ยาแก้ไอดังกล่าวจะมีฤทธิ์กดประสาทอ่อนๆ ซึ่งคล้ายกับการกินใบกระท่อม ซึ่งผู้ที่กินแล้วจะมีอาการเคลิ้ม มึน เบื้องต้นตนมองว่าเด็กที่เข้าโรงพยาบาลดังกล่าวคงเข็ดกับการกินยาดังกล่าว และไม่หันกลับไปกินจนทำให้ติดยา
ขณะที่ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ดูแลสำนักการศึกษา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจในพื้นที่บางกอกใหญ่ ออกตรวจพื้นที่และหาข้อมูลว่าเด็กที่นำยามาขายนั้นซื้อมาจากที่ไหน โดยในสัปดาห์หน้าตนจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่เทศกิจพิทักษ์นักเรียน โดยเฉพาะตรวจตราในร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดทาง พญ.มาลินี ได้สั่งการให้ย้ายนักเรียนที่เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลบางไผ่ และพญาไท 3 กลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสินซึ่งเป็นโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทั้งหมด พร้อมกับจะออกค่ารักษาพยาบาลให้อีกด้วย