บก.ปทส.โชว์จับแก๊งค้างาช้างส่งขายอเมริกา ยึดของกลาง งาช้าง 6 กิ่งพระพุทธรูปที่แกะสลักจากงาช้าง-กำไรข้อมือ-เขี้ยวเสือ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ด้าน ผอ.มูลนิธิฟรีแลนด์ ระบุเป็นการร่วมมือครั้งแรกของไทยกับอเมริกาที่จะเป็นจุดเริ่มต้นสกัดการลอบค้าสัตว์ป่า คาดหวังจะขยายผลตามจับระดับบิ๊กที่อยู่เบื้องหลังได้
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผบก.ปทส. พ.ต.อ.สืบศักดิ์ ชลาลวิวัฒน์ รองผบก.ปทส. พ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง รอง ผบก.ปทส.ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมลักลอบค้างาช้างจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา พร้อมของกลางงาช้างขนาดต่างๆ รวม 6 กิ่ง งาช้างแกะสลักเป็นพระพุทธรูป กำไรข้อมือ และเขี้ยวเสือ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
พล.ต.ต.มิสกวัน เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก บก.ปทส.ได้รับการประสานงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์น้ำสหรัฐอเมริกา ว่า มีคนไทยทำการลักลอบนำงาช้างเข้าไปขายสหรัฐอเมริกาผ่านทางอินเทอร์เน็ต และทำการจ่ายเงินผ่านระบบ PAYPAL กันหลายครั้งแล้ว มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. จึงร่วมกันวางแผนร่วมกับมูลนิธิฟรีแลนด์ ทำการสืบสวนจับกุมจนกระทั่งสามารถออกหมายจับนางกนกวรรณ วงศาโรจน์ อายุ 39 ปี และนายสามารถ โชคโชยมา อายุ 39 ปี ในข้อหาค้าซากสัตว์ป่าสงวน หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ของสัตว์ดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนจะติดตามจับกุมได้ในเวลาต่อมา
พล.ต.ต.มิสกวัน กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า งาช้างของกลางที่ลักลอบไปจำหน่ายที่ต่างประเทศนั้น ผู้ต้องหาได้ซื้อมาจากร้านชัยพรของนางจินตนา ฟ้าประทานพร อายุ 40 ปี และร้านทัศนัย ของนางจิตติมา ชัยยากุล อายุ 36 ปี ในตลาดพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อและจับกุมทั้งคู่ได้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางงาช้างแอฟริกา จำนวน 6 กิ่ง น้ำหนักรวม 32 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายสตีฟ กลาสเตอร์ ผอ.มูลนิธิฟรีแลนด์ กล่าวว่า ในการสืบสวนและกวาดล้างเครือข่ายการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายนี้ ถือเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งควรได้รับการยกย่อง การจับกุมและดำเนินการกับตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังนั้นทำได้ยาก ซึ่งการสืบสวนครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพยายามที่จะหยุดยั้งการลักลอบค้าลัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งมีความหวังว่าจะสามารถสานต่อเพื่อจับกุมและดำเนินคดีกับตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังได้