หนุ่มเพี้ยนเมายาแก้ผ้าปีนเข้าบ้านที่ปรึกษา รมว.คลัง

รวบหนุ่มเพี้ยนเมายาแก้ผ้าเปลือยล่อนจ้อนปีนเข้าบ้านที่ปรึกษา รมว.คลัง ย่านพระราม 3 โชคดี รปภ.หมู่บ้านช่วยจับตัวไว้ได้ ก่อนคุมตัวส่ง ตร. เจ้าตัวให้การวกวนคล้ายคนติดยาจับตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง แจ้งข้อหาบุกรุก-ลักทรัพย์

วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.สามารถ สีม่วงกลาง สวป. สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีเหตุคนร้ายพยายามปีนเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านเลขที่ 269/1 หมู่บ้านภักดี 1 ถนนพระราม 3 แขวงบุคคโล เขตบางคอแหลม เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 500 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งเป็นของนายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ อายุ 39 ปี ที่ปรึกษาของนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบนายวรเทพ เจ้าของบ้าน พร้อมกับวรพงษ์ สุวัฒนพิมพ์ อายุ 38 ปี น้องชาย และนายเชิด โอวาท อายุ 42 ปี รปภ.ประจำหมู่บ้าน กำลังควบคุมตัวนายยศวัฒน์ กุลธนาอัครวัฒน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน มีอาการคล้ายคนเมายา

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ถฉ-435 กทม.ของนายยศวัฒน์ จอดอยู่ จึงตรวจค้นพบพระเครื่องประมาณ 200 กว่าองค์ กระเป๋าเอกสาร 1 ใบ กระเป๋าเสื้อผ้าอีก 2 ใบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายยศวัฒน์ ส่ง ร.ต.ท.วิฑูรย์ สุขประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.วัดพระยาไกร ทำการสอบปากคำ

จากการสอบปากคำนายวรพงษ์ สุวัฒนพิมพ์ อายุ 38 ปี น้องชายนายวรเทพซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าของบ้านเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักให้การว่า บ้านหลังเกิดเหตุอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ประมาณ 10 คน เป็นญาติกัน 6 คน รวมทั้งนายวรเทพพี่ชายของตนด้วย และคนใช้อีก 4 คน โดยก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังอยู่นอนอยู่ในห้องนอน จากนั้นก็ได้ยินเสียง รปภ.ของหมู่บ้านกับคนใช้ตะโกนเสียงดังว่าขโมยหลายครั้ง เลยรีบตื่นลงมาดูก็พบว่าคนร้ายอยู่ภายในบ้านในสภาพไม่สวมเสื้อผ้าสักชิ้น จากนั้น รปภ.ก็ตะโกนอีก ซึ่งคนร้ายคงไม่รู้ว่าจะหนีอย่างไร เลยปีนออกจากรั้วบ้านไปจนถูก รปภ.กับคนใช้ช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้

ด้าน นายเชิดให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเห็นคนร้ายขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุหลายรอบ จากนั้นคนร้ายก็ลงจากรถแล้วไปเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุอยู่นาน ก็เลยเข้าไปสอบถามว่ามาหาใคร คนร้ายก็อ้างว่ามาหาญาติ ตนก็ถามไปอีกว่าญาติชื่ออะไร แต่นายยศวัฒน์ก็บอกชื่อคนในบ้านผิด ตนเลยบอกไปว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อนี้

“หลังจากนั้นเขาก็เดินหายไป สักพักเดียวก็เห็นเขาเดินไปที่มุมบ้าน จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกหมด แล้วก็ปีนเข้าไปในบ้านทันที ผมเลยตะโกนว่า ขโมย ขโมย คนร้ายคงไม่รู้จะทำยังไงก็เลยปีนกลับออกมา ผมกับคนรับใช้ในบ้านเลยช่วยจับตัวเอาไว้ได้” นายเชิดกล่าว

ด้าน ร.ต.ท.วิฑูรย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง บอกแต่เพียงว่าจะกลับบ้านแล้วเข้าบ้านผิด ส่วนพระเครื่องจำนวนมากผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นของตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อแต่อย่างใด แต่จากการสังเกตอาการของผู้ต้องหานั้นคล้ายมีอาการลักษณะเหมือนเมายา จึงนำตัวไปการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ก็ปรากฏว่าผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงส่งปัสสาวะของผู้ต้องหาไปตรวจที่โรงพยาบาลบางปะกอก เพื่อหาสารเสพติดต่อไป พร้อมทั้งแจ้งข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนไว้ก่อน ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป