“ผ่าประเด็นร้อน”
สถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ หากพิจารณาตามความเป็นจริงเหมือนกับว่ากำลังรอ “บ่งฝีแตก” หลายอย่างกำลังสุกงอมเต็มที
สิ่งที่เป็นตัวเร่งให้ฝีแตกเร็วขึ้นกลายเป็นว่า ผลงานของรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในรอบ 1 ปี กลับทำได้ดีเกินคาด ภาคเอกชน-นักวิชาการประสานเสียงให้สอบผ่าน ส่วนใหญ่ให้ “เกรดบี” ขึ้นไป ขณะที่หลายนโยบายก็ทำได้น่าพอใจ แม้ว่าจะมีอีกหลายเรื่องที่ยังทำไม่ได้ตามเป้าหรือล้มเหลว แต่โดยรวมถือว่าใช้ได้ในสถานการณ์ที่ ทักษิณ ชินวัตร ตามบี้ไม่ให้โงหัวแบบนี้
เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์สอบผ่าน นั่นก็ย่อมหมายความว่า คนส่วนใหญ่ยังให้โอกาสทำงานต่อ และมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏการณ์ดังกล่าว อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนเป็นสัญญาณร้ายสำหรับ ทักษิณ ที่โอกาสจะรอดคุก ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์และกลับมามีอำนาจอีกครั้งย่อมห่างไกลออกไปทุกทีเช่นเดียวกัน
ยิ่งทอดเวลานานไปก็ยิ่งลำบาก และนี่จึงน่าจะเป็นที่มาของการร่นเวลาในการทำ “สงครามครั้งสุดท้าย” ของเขา ล่าสุดได้สั่งให้ “เสื้อแดง” กระจายป่วนกันหลายจุดทั่วประเทศเป็นการโหมโรงก่อนที่จะถึงวันชุมนุมใหญ่ ซึ่งก็เลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในปลายเดือนมกราคมเป็นช่วงต้นเดือน
อย่างที่บอกตั้งแต่แรกแล้วก็คือ ยิ่งรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ได้รับการยอมรับและได้โอกาสให้บริหารประเทศต่อไป และยิ่งอยู่นานก็ยิ่งเข้มแข็ง นั่นก็ย่อมเป็นผลร้ายต่อ ทักษิณ เพราะหากนานไปบรรดาแนวร่วมผู้สนับสนุนก็จะยิ่งหดหาย ส่วนที่ยังเหลือ “บ้า” อยู่ในเวลานี้ก็มีอยู่น้อยเต็มที และยิ่งกว่าน้อยลงไปอีกสำหรับคนที่มีคุณภาพที่สร้างความเชื่อถือให้แก่สังคม
ที่เคลื่อนไหวอยู่เวลานี้เท่าที่เห็นก็จะมี แรมบ้า-อริสมันต์-จตุพร-ณัฐวุฒิ คนพวกนี้ลองไปถามคนไทยที่มีคุณภาพ มีการศึกษา มีศีลธรรม รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วจะยังให้เครดิตอยู่อีกหรือไม่
เมื่อสถานการณ์คับขันมันก็ช่วยไม่ได้ที่ ทักษิณ จะต้องเร่งปิดเกมให้เร็วที่สุด ล่าสุดระหว่างที่มีการเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.เขาได้ส่งสัญญาณรบเต็มกำลังแล้ว โดยวีดิโอลิ้งค์เข้ามาเรียกร้องให้คนเสื้อแดงเริ่มป่วนกดดันรัฐบาลตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ที่น่าสังเกตก็คือในภาพวีดิโอดังกล่าวมีการปรากฎตัวพร้อมกันเป็นครั้งแรก คือ ยงยุทธ ติยะไพรัช และ จักรภพ เพ็ญแข
ซึ่งคนทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่าแรงอาฆาตนั้นมากมายเพียงใด
ที่สอดรับกันก็คือในช่วงสองสามวันมานี้ได้มีกลุ่มเสื้อแดงกระจายเดินสายไปกดดันตามสถานที่ต่างๆเช่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยในสัปดาห์หน้า ทางแกนนำบางคน เช่น สุพร อัตถาวงศ์ และ อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะไปป่วนที่ กกต.อีกรอบ รวมไปถึง ศาลรัฐธรรมนูญ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 27-28 ธนวาคมนี้ ก็มีแนวร่วมอีกกลุ่มหนึ่งจะไปชุมนุมอ้างว่าเพื่อรำลึกถึงวัน “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
จากนั้นในวันที่ 11 มกราคม 2553 จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ประกาศว่าจะเดินทางไปชุมนุมใหญ่ที่เขายายเที่ยงเพื่อกดดันให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั่นคือกำหนดการคร่าวๆของการเคลื่อนไหวของลิ่วล้อทักษิณ
อย่างไรก็ดี หากกล่าวเฉพาะกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังจากที่เพิ่งปฏิเสธคำพูดที่ว่าจะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยกับทักษิณ โดยระบุว่าสื่อไปขยายความบิดเบือน ซึ่งในช่วงนั้น ทักษิณ ก็ออกมารับลูกโดยเสนอเงื่อนไขเข้ามาดูแล้วเหมือนกับมีความหวังเมื่อเห็นอะไรผ่านเข้ามาก็คว้าเอาไว้ก่อน
แต่เมื่อถูกปฏิเสธ ซึ่งจะเป็นเพราะสื่อสารกันไม่เข้าใจ หรือมีคนสั่งให้เลิกเจรจาตามที่ ทักษิณ และแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนกล่าวหาก็ตาม แต่หลังจากนั้นสังเกตให้ดีว่า กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้เบนเป้าไปโจมตีและกดดัน พล.อ.สุรยุทธ์ แบบผิดสังเกต
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งก็ปรากฎความเคลื่อนไหวของบรรดาขุนทหารที่มีกำหนดนัดตบเท้าเข้าพบ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประชาธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่ออวยพรปีใหม่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ แม้ว่าจะเป็นกำหนดการประจำปี แต่ปีนี้พิเศษกว่าปีก่อนก็คือ เป็นการตบเท้าเข้ามาพร้อมกันทุกเหล่าทัพ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไล่ลงมาไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ แต่ที่พิเศษก็คือ ในปีนี้ มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง หลังจากปีที่แล้วบังเอิญว่าติดราชการ ไม่อาจไปร่วมอวยพรพร้อมกับคนอื่นได้
ดังนั้นจึงต้องรอฟังโอวาทจากป๋าเปรม ว่าจะเน้นย้ำในเรื่องใดบ้าง แต่ถือว่าน่าจับตาเป็นพิเศษ และอีกด้านหนึ่งมันก็แสดงภาพให้เห็นว่าระดับกำลังหลักยังผนึกกับฝ่าย “อำมาตย์”
และนี่คือความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหมด และอีกไม่นานก็จะนับถอยหลังกันแล้ว แต่คนที่จะคลั่งใจตายก็เห็นจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร เพราะหนทางทุกอย่างเริ่มตีบตันลงเรื่อยๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องเร่งแตกหันลุ้นได้เสียให้เร็วที่สุด!!