xs
xsm
sm
md
lg

“ปทีป” สั่งทุก บช.ตั้งรอง ผบก.-สว.เสร็จ 22 ม.ค.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.
“ปทีป” สั่งทุกกองบังคับการในสังกัด สตช.แต่งตั้ง รอง ผบก.-สว.ให้แล้วเสร็จใน 22 ม.ค.มีผล 16 ก.พ.

วันนี้ (15 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 14 ม.ค.2553 เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยเนื้อหาระบุว่า เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการ วาระประจำปี 2552 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรถึงจเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2549 จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการดังต่อไปนี้

ให้ทุกกองบัญชาการและทุกกองบังคับการในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจัดส่งบัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึง รอง ผบก.ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน ทะเบียนพล ภายในวันที่ 19 ม.ค.2553 และให้จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (บัญชีสรรหา) และผู้ไม่เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น บัญชีเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่อยู่ในอำนาจของ ผบ.ตร. (กรณีเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้ามหน่วย) และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา และให้จัดทำบัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจภายในอำนาจของ ผบช. หรือ ผบก. (กรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนระดับ ผกก. ลงมาภายใน บช.หรือ บก.)

ส่วนกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึง รอง ผบก.ให้เสร็จสิ้นและให้มีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยในวันที่ 22 ม.ค.2553 โดยให้คำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 16 ก.พ.2553

สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจผู้ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี สับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเดิม ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.ก่อน ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึงรอง ผบก.ให้หน่วยดำเนินการเฉพาะกรณีที่มีข้อมูลหลักฐานและเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น เช่นการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในรายที่อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์มีมติให้เยียวยาหรือแก้ไข โดยให้หน่วยระบุตำแหน่งใหม่พร้อมข้อมูลหลักฐานและเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจนแล้วเสนอไปยัง ตร.ผ่าน ทพ.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในวันที่ 18 ม.ค.2553

ส่วนการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนนายตำรวจในตำแหน่ง นว. และ ผช.นว. กรณีผู้บังคับบัญชาไม่เปลี่ยนแปลงสถานภาพ จะต้องดำรงตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งสุดท้ายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี อย่างไรก็ตาม หากผู้นั้นดำรงตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี แต่ได้ดำรงตำแหน่ง นว.หรือ ผช.นว.ซึ่งเป็นตำแหน่งระดับเดียวกันต่อเนื่องกันมาครบ 2 ปีแล้ว อาจได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นได้ กรณีผู้บังคับบัญชาที่เปลี่ยนแปลงสถานภาพและได้ดำรงตำแหน่ง นว.และ ผช.นว. ยังไม่ครบ 2 ปี ควรพิจารณาให้แต่งตั้งตามไปด้วย

ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก. ตำแหน่งเดียวกันติดต่อกันเป็นระยะเวลา ครบ 4 ปี หากมีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องดำรงตำแหน่งปัจจุบันต่อไป ให้เสนอเหตุผลความจำเป็นไปยัง ตร.ผ่าน ทพ. เพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาภายในวันที่ 18 ม.ค. 2553 ส่วนข้าราชการตำรวจที่เป็นผู้เหมาะสมและะมีลำดับอาวุโสสูงที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (อาวุโส 25 เปอร์เซ็นต์) ให้หน่วยพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้ครบตามจำนวนที่ กฎ ก.ตร.กำหนดทุกราย หากหน่วยไม่พิจารณาแต่งตั้ง ต้องมีเหตุผลที่ชี้แจงอย่างละเอียดชัดเจนและเป็นรูปธรรม และข้าราชการตำรวจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชนประจำปี 2552 แต่ละกลุ่มตำแหน่งให้หน่วยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ

ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 3) หรือ พงส.(สบ 2) ที่ได้รับรางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่นประจำปี 2552 ของ ตร. และไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูง ให้พิจารณาแต่งตั้งเลื่อนระดับชั้นของตำแหน่งเป็น รอง ผกก.สส.ให้สถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูงขึ้น หรือเลื่อนระดับชั้นของตำแหน่งเป็น สว.สภ.แล้วแต่กรณี หรือพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดังกล่าวสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 3) หรือ พงส.(สบ 2) ในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูงขึ้นตามความสมัครใจ

อนึ่ง กรณีหน่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการแต่งตั้งที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น ไม่สามารถดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่ไม่มีรายชื่อในบัญชีผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งว่างที่เหลืออยู่ภายในหน่วยได้ เป็นต้น ให้หน่วยรวบรวมปัญหาข้อขัดข้องพร้อมเสนอแนวทางแก้ไขไปยัง ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น