รวบเครือข่ายค้ายาชาวลาว ขณะนั่งแท๊กซี่ขนยาบ้ากว่าหมื่นเม็ดเตรียมส่งลูกค้า รับสารภาพหนีเข้ามาทางตะเข็บชายแดนมุกดาหาร แล้วนั่งรถโดยสารไปขอนแก่นรับยาของกลาง แล้วล่องลงกรุงนำส่งยาย่านบางบัวทอง แต่มาเจอด่านถูกจับก่อนได้รับค่าเสี่ยงเกือบ 7 หมื่นบาท
วันนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รองผบช.น. และ พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ ร่วมกันแถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนนนท์ จับกุมตัว นางคำสี สีสะหวัด อายุ 43 ปี และ นางหม้วย (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 38 ปี ทั้ง 2 ราย เป็นบุคคลสัญชาติลาว พร้อมของกลางยาบ้า 5 มัด จำนวน 10,100 เม็ด และเงินสดอีก 12,820 บาท โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะโดยสารรถแท็กซี่ผ่านด่านตรวจบริเวณถนนเลียบทางรถไฟตัดใหม่ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม.
พล.ต.ต.บุญส่ง กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนนนท์ ได้สนธิกำลังกันตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดของ บช.น.ที่บริเวณดังกล่าว ปรากฏว่า มีรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลืองคันหนึ่งแล่นผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังด้วยท่าทางมีพิรุธ เมื่อตำรวจโบกให้โชเฟอร์จอดรถเพื่อขอตรวจค้น จึงทราบว่าหญิงสาวทั้ง 2 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมาย และเมื่อทำการค้นในกระเป๋าสะพาย พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บางขุนนนท์
“จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ได้หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทางตะเข็บชายแดน จ.มุกดาหาร จากนั้นก็นั่งรถโดยสารไปที่ จ.ขอนแก่น เพื่อรับยาบ้า จำนวน 5 มัด เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าชื่อ นายชาติ (ไม่ทราบนามสกุล) ย่านบางบัวทอง แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางไปนั้นกลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดจับกุมเอาไว้ได้เสียก่อน หากทั้ง 2 ราย ทำการส่งมอบยาบ้าครั้งนี้ได้สำเร็จ ก็จะได้รับค่าเสี่ยงภัยจำนวน มัดละ 13,000 บาท หรือยอดรวมคือ 65,000 บาท เลยทีเดียว” พล.ต.ต.บุญส่ง กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ชาวลาวทั้ง 2 รายว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ดำเนินคดีต่อไป
