ปส.โชว์จับแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ ยึดของกลาง 36,000 เม็ด ซุกช่องลับห้องโดยสารกระบะ พร้อมปืน-เครื่องกระสุน เสื้อเกราะกันกระสุน ครบสูตร ส่วนอีกรายจับเอเยนต์ค้ายาบ้าชาวปทุมธานี ของกลาง 2 หมื่นเม็ด ด้าน รอง ผบช.ปส.ระบุผู้ต้องหาที่จับได้ทั้งหมดพบมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาตามแนวชายแดนอีสาน เดินหน้าขยายผลจับกุมเพิ่มต่อไป
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. แถลงข่าวผลการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ ตามแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2” หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้เปิดปฏิบัติการและปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นชุมชนที่เป็นแหล่งระบาดยาเสพติดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลงานแรก พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.2 นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายประเสริฐ เจริญสุข อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ นายดนัย ธรรมทักษา อายุ 31 ปี ชาว จ.พิจิตร และนายพลากร ประมนต์ อายุ 25 ปี ชาว จ.สกลนคร พร้อมของกลางยาบ้า 36,000 เม็ด รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ 6530 อ่างทอง 1 คัน อาวุธปืนลูกซองยาว อาวุธปืนลูกกรดขนาด .22 อาวุธปืนสั้นขนาด .357 และอาวุธปืนสั้นขนาด .38 รวมทั้งสิ้น 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ 108 นัด เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว และเป้ากระดาษสำหรับซ้อมยิงปืน อีก 1 แผ่น โดยจับกุมตัวได้ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ขับรถกระบะขนยาบ้าผ่านด่านตรวจค้นยาเสพติด ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
พล.ต.ต.สรศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 07.40 น.วานนี้ (16 ธ.ค.) ขณะที่กำลังตำรวจ บก.ปส.2 ตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติดอยู่ที่บริเวณดังกล่าว พบรถกระบะต้องสงสัยขับผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแสดงท่าทีมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 36,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับภายในห้องโดยสาร จึงควบคุมตัวทั้ง 3 รายเอาไว้ ก่อนนำตัวนายประเสริฐไปขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักย่านทุ่งครุ รอยต่อ จ.สมุทรปราการ พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนและยุทธภัณฑ์อื่นๆ จำนวนมาก จึงแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนนายประเสริฐ ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพิ่มอีก 1 คดี
จากการสอบสวน นายประเสริฐให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้า แต่ธุรกิจตกต่ำตามสภาวะเศรษฐกิจ จึงหันไปรับจ้างส่งยาบ้าแทน โดยได้รับการว่าจ้างจากนายหวัน (ไม่ทราบนามสกุล) และชายอีกคนซึ่งตนเรียกว่า “เฮีย” ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งทั้ง 2 ราย เคยสั่งให้ตนขับรถไปรับยาบ้าจากพื้นที่ จ.นครพนม มาส่งให้เอเยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งหนึ่งแล้วได้ค่าจ้าง จำนวน 10,000 บาท ส่วนการรับงานคราวนี้เป็นรอบที่ 2 แต่ทำไม่สำเร็จจึงถูกจับกุมได้คาด่านตรวจ สำหรับอาวุธปืนทั้งหมดนั้นไม่ใช่ของตน เนื่องจากมีคนที่รู้จักนำมาฝากเอาไว้ที่บ้าน ก็เลยโดนยึดมาเป็นของกลางและถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
อีกราย พ.ต.อ.ทองเหมาะ ลาลาภ ผกก.1 บก.ปส.3 นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสำราญ นิ่มอนงค์ อายุ 37 ปี นายุญรอด บุบผา อายุ 59 ปี และนายทิวา เหมือนใจ อายุ 36 ปี ทั้ง 3 รายเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางยาบ้า 20,000 เม็ด รถเก๋ง 1 คัน รถ จยย. 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้จากการล่อซื้อภายในร้านอาหารครัวคุณก้อย ริมถนนรังสิต-นครนายก หมู่ 4 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.หาญพล เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 มีข้อมูลว่า นายบุญรอด มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้าในพื้นที่มานาน โดยเป็นเอเยนต์ในเครือข่ายของนายสมชาย (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ต้องขังคดียาเสพติดชื่อดัง ซึ่งถูกย้ายตัวสับเปลี่ยนไปตามเรือนจำต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งตำรวจสามารถติดต่อขอล่อซื้อยาบ้าจากนายบุญรอดได้จำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 2,300,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบของกลางกันที่ร้านอาหารดังกล่าว เมื่อนายบุญรอดพาพวกอีก 2 คน มาพบกับเจ้าหน้าที่ตามนัดจึงถูกจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด
พล.ต.ต.หาญพล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผลงานของ บก.ปส.2 ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมยาบ้า และอาวุธปืนจำนวนมากนั้น เห็นได้ชัดว่าพ่อค้ายาเสพติดมีความพร้อมที่จะใช้อาวุธปืนต่อสู้กับตำรวจ มีการเตรียมอาวุธปืน เสื้อเกราะกันกระสุน และมีการซักซ้อมยิงปืนได้อย่างแม่นยำ เข้าเป้าจุดดำตรงกลางทุกนัด ถือว่ายิงปืนเก่งกว่าตำรวจบางคนเสียอีก ซึ่งขณะนี้เรามีข้อมูลแล้วว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คดีเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ตามแนวชายแดนภาคอีสาน แต่ยังระบุรายชื่อของนายทุนใหญ่ไม่ได้ ต้องขอเวลาสืบสวนขยายผลอีกสักระยะเพื่อหาหลักฐานในการออกหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. แถลงข่าวผลการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ ตามแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2” หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้เปิดปฏิบัติการและปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นชุมชนที่เป็นแหล่งระบาดยาเสพติดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลงานแรก พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.2 นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายประเสริฐ เจริญสุข อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ นายดนัย ธรรมทักษา อายุ 31 ปี ชาว จ.พิจิตร และนายพลากร ประมนต์ อายุ 25 ปี ชาว จ.สกลนคร พร้อมของกลางยาบ้า 36,000 เม็ด รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ 6530 อ่างทอง 1 คัน อาวุธปืนลูกซองยาว อาวุธปืนลูกกรดขนาด .22 อาวุธปืนสั้นขนาด .357 และอาวุธปืนสั้นขนาด .38 รวมทั้งสิ้น 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ 108 นัด เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว และเป้ากระดาษสำหรับซ้อมยิงปืน อีก 1 แผ่น โดยจับกุมตัวได้ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ขับรถกระบะขนยาบ้าผ่านด่านตรวจค้นยาเสพติด ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
พล.ต.ต.สรศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 07.40 น.วานนี้ (16 ธ.ค.) ขณะที่กำลังตำรวจ บก.ปส.2 ตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติดอยู่ที่บริเวณดังกล่าว พบรถกระบะต้องสงสัยขับผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแสดงท่าทีมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 36,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับภายในห้องโดยสาร จึงควบคุมตัวทั้ง 3 รายเอาไว้ ก่อนนำตัวนายประเสริฐไปขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักย่านทุ่งครุ รอยต่อ จ.สมุทรปราการ พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนและยุทธภัณฑ์อื่นๆ จำนวนมาก จึงแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนนายประเสริฐ ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพิ่มอีก 1 คดี
จากการสอบสวน นายประเสริฐให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้า แต่ธุรกิจตกต่ำตามสภาวะเศรษฐกิจ จึงหันไปรับจ้างส่งยาบ้าแทน โดยได้รับการว่าจ้างจากนายหวัน (ไม่ทราบนามสกุล) และชายอีกคนซึ่งตนเรียกว่า “เฮีย” ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งทั้ง 2 ราย เคยสั่งให้ตนขับรถไปรับยาบ้าจากพื้นที่ จ.นครพนม มาส่งให้เอเยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งหนึ่งแล้วได้ค่าจ้าง จำนวน 10,000 บาท ส่วนการรับงานคราวนี้เป็นรอบที่ 2 แต่ทำไม่สำเร็จจึงถูกจับกุมได้คาด่านตรวจ สำหรับอาวุธปืนทั้งหมดนั้นไม่ใช่ของตน เนื่องจากมีคนที่รู้จักนำมาฝากเอาไว้ที่บ้าน ก็เลยโดนยึดมาเป็นของกลางและถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
อีกราย พ.ต.อ.ทองเหมาะ ลาลาภ ผกก.1 บก.ปส.3 นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสำราญ นิ่มอนงค์ อายุ 37 ปี นายุญรอด บุบผา อายุ 59 ปี และนายทิวา เหมือนใจ อายุ 36 ปี ทั้ง 3 รายเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางยาบ้า 20,000 เม็ด รถเก๋ง 1 คัน รถ จยย. 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้จากการล่อซื้อภายในร้านอาหารครัวคุณก้อย ริมถนนรังสิต-นครนายก หมู่ 4 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.หาญพล เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 มีข้อมูลว่า นายบุญรอด มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้าในพื้นที่มานาน โดยเป็นเอเยนต์ในเครือข่ายของนายสมชาย (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ต้องขังคดียาเสพติดชื่อดัง ซึ่งถูกย้ายตัวสับเปลี่ยนไปตามเรือนจำต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งตำรวจสามารถติดต่อขอล่อซื้อยาบ้าจากนายบุญรอดได้จำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 2,300,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบของกลางกันที่ร้านอาหารดังกล่าว เมื่อนายบุญรอดพาพวกอีก 2 คน มาพบกับเจ้าหน้าที่ตามนัดจึงถูกจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด
พล.ต.ต.หาญพล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผลงานของ บก.ปส.2 ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมยาบ้า และอาวุธปืนจำนวนมากนั้น เห็นได้ชัดว่าพ่อค้ายาเสพติดมีความพร้อมที่จะใช้อาวุธปืนต่อสู้กับตำรวจ มีการเตรียมอาวุธปืน เสื้อเกราะกันกระสุน และมีการซักซ้อมยิงปืนได้อย่างแม่นยำ เข้าเป้าจุดดำตรงกลางทุกนัด ถือว่ายิงปืนเก่งกว่าตำรวจบางคนเสียอีก ซึ่งขณะนี้เรามีข้อมูลแล้วว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คดีเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ตามแนวชายแดนภาคอีสาน แต่ยังระบุรายชื่อของนายทุนใหญ่ไม่ได้ ต้องขอเวลาสืบสวนขยายผลอีกสักระยะเพื่อหาหลักฐานในการออกหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป