อุบลราชธานี - ตำรวจอุบลราชธานีโชว์ฝีมือ จับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ส่งไปขายประเทศลาวได้ผู้ต้องหา 3 ราย ขณะเดียวกัน ศุลกากรสามารถจับยาบ้าพร้อมกล้วยไม้ป่าหายากซ่อนมาในรถโดยสารระหว่างประเทศ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี แถลงผลการจับกุมแก๊งขโมยรถส่งเข้าไปขายในประเทศลาว โดยเมื่อกลางดึกคืนวันเดียวกัน พ.ต.ท.อภิชาติ สุขเลิศ สวญ.ช่องเม็ก อ.สินรินธร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มที่ช่องทางเข้าออกตามธรรมชาติชายแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่บ้านคำกั้ง หมู่ 6 ต.ช่องเม็ก
ถึงเวลามีนายวิท (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ขี่รถ จยย.ยามาฮ่ามีโอสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่งสัญญาณให้นายพุทธา แก่นโสม อายุ 23 ปี และนายอุทิศ บุญบรรจบ อายุ 39 ปี ราษฎร ต.นิคมลำโดมน้อย อ.สิรินธร ขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีบรอนด์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ฌง -5196 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถยนต์ขโมยมาจากพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เพื่อส่งมอบให้กับแก๊งค้ารถเถื่อนในประเทศลาว จึงได้ออกมาสกัดจับกุมไว้ได้ โดยผู้ต้องหารับสารภาพได้ค่าจ้างให้ขับรถของกลางมาส่งในราคาคันละ 2,000 บาท ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งชาวลาวเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ไทยบุกจับกุม จึงได้หลบหนีข้ามกลับเข้าประเทศไปในเวลาเดียวกัน
วันเดียวกัน นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ นายด่านศุลกากรพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนช่องเม็ก สามารถจับกุมท้าวพูเก็ด ท่อจินยะวง อายุ 32 ปี ราษฎรชาวลาว ขณะนั่งรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศปากเซ-อุบลราชธานี โดยตรวจพบยาบ้าชนิดเม็ดสีส้มจำนวน 7,900 เม็ด ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสะพายหลังสีดำ รับสารภาพได้รับการว่าจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศลาว นำยาบ้าทั้งหมดไปส่งที่กรุงเทพฯในราคา 50,000 บาท แต่ถูกจับได้ก่อน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรยังตรวจจับกล้วยไม้ป่าพันธุ์หายาก เช่น ช้างกระ รองเท้านารี จำนวน 500 ต้น มูลค่าเกือบ 100,000 บาท ซุกซ่อนมาในรถโดยสาร จึงได้ตรวจยึดไว้ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ (ไซเตส) เพื่อร่วมมือกันปกป้องพันธุ์ไม้ป่าหายากเหล่านี้ ส่งมอบให้หน่วยงานด้านอนุรักษ์ธรรมชาติต่อไป
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี แถลงผลการจับกุมแก๊งขโมยรถส่งเข้าไปขายในประเทศลาว โดยเมื่อกลางดึกคืนวันเดียวกัน พ.ต.ท.อภิชาติ สุขเลิศ สวญ.ช่องเม็ก อ.สินรินธร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มที่ช่องทางเข้าออกตามธรรมชาติชายแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่บ้านคำกั้ง หมู่ 6 ต.ช่องเม็ก
ถึงเวลามีนายวิท (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ขี่รถ จยย.ยามาฮ่ามีโอสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่งสัญญาณให้นายพุทธา แก่นโสม อายุ 23 ปี และนายอุทิศ บุญบรรจบ อายุ 39 ปี ราษฎร ต.นิคมลำโดมน้อย อ.สิรินธร ขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีบรอนด์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ฌง -5196 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถยนต์ขโมยมาจากพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เพื่อส่งมอบให้กับแก๊งค้ารถเถื่อนในประเทศลาว จึงได้ออกมาสกัดจับกุมไว้ได้ โดยผู้ต้องหารับสารภาพได้ค่าจ้างให้ขับรถของกลางมาส่งในราคาคันละ 2,000 บาท ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งชาวลาวเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ไทยบุกจับกุม จึงได้หลบหนีข้ามกลับเข้าประเทศไปในเวลาเดียวกัน
วันเดียวกัน นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ นายด่านศุลกากรพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนช่องเม็ก สามารถจับกุมท้าวพูเก็ด ท่อจินยะวง อายุ 32 ปี ราษฎรชาวลาว ขณะนั่งรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศปากเซ-อุบลราชธานี โดยตรวจพบยาบ้าชนิดเม็ดสีส้มจำนวน 7,900 เม็ด ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสะพายหลังสีดำ รับสารภาพได้รับการว่าจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศลาว นำยาบ้าทั้งหมดไปส่งที่กรุงเทพฯในราคา 50,000 บาท แต่ถูกจับได้ก่อน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรยังตรวจจับกล้วยไม้ป่าพันธุ์หายาก เช่น ช้างกระ รองเท้านารี จำนวน 500 ต้น มูลค่าเกือบ 100,000 บาท ซุกซ่อนมาในรถโดยสาร จึงได้ตรวจยึดไว้ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ (ไซเตส) เพื่อร่วมมือกันปกป้องพันธุ์ไม้ป่าหายากเหล่านี้ ส่งมอบให้หน่วยงานด้านอนุรักษ์ธรรมชาติต่อไป
