รวบแก๊งค้ามนุษย์หลอกสองสาวไทยทำนวดสปาเมืองนอก ที่แท้ขายต่อให้แม่เล้านำไปค้ากามบาร์เรน รับสารภาพมีอาชีพขายกล้วยทอดที่บาร์เรน ปัดผู้หญิงไทยส่วนใหญ่เต็มใจไปค้าประเวณีเอง
วันนี้ ( 11 ม.ค.) ที่ บก.ปคม. เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายชัยธวัช หรือวิโรจน์ ขำวงษ์ อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 52/2553 ลงวันที่ 9 มกราคม 2553 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จับกุมได้ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.เอ และ น.ส.บี (ทั้งสองนามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาว จ .นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ถูกผู้ต้องหากับพวกซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน ชักชวนให้ไปทำงานหมอนวดสปาในโรงแรมที่ประเทศบาห์เรน โดยอ้างว่ามีรายได้สูงถึงสัปดาห์ละประมาณ 1-2 แสนบาท โดยทางผู้ต้องหาจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 1.5 แสนบาท ให้ก่อน
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวต่อไปว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2552 หลังจากผู้เสียหายทั้งสองหลงเชื่อยินยอมเดินทางไปทำงานดังกล่าว จึงได้พบกับนายอาลี (ไม่ทราบชื่อสกุล) สัญชาติบาห์เรน มารับตัวจากสนามบินก่อนพาไปพักที่โรงแรมเมโลดี้ จากนั้นผู้เสียหายกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี ไม่ได้ทำงานนวดสปาตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอมและยืนยันจะขอเดินทางกลับประเทศไทย กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2552 ผู้ต้องหาได้พาผู้เสียหายไปขายต่อให้นางพร ไม่ทราบชื่อสกุล แม่แทคที่อยู่ในประเทศบาห์เรน
รองผบก.ปคม. กล่าวด้วยว่า หลังจากผู้เสียหายถูกขายต่อให้แม่แทคคนดังกล่าว จึงถูกบังคับให้ค้าประเวณีกับแขกที่มาใช้บริการ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ส่วนเงินค่าบริการจะมีนางกอบกุล ซิลเวสเตอร์ แจน ล็อค อายุ 30 ปี เป็นผู้เก็บไว้ทั้งหมดก่อนส่งให้แม่แทครายนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 ทางตำรวจประเทศบาห์เรน สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งสองไว้ได้พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในประเทศบาห์เรน ทั้งสองจึงถูกส่งตัวกลับประเทศไทย ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความที่ บก.ปคม.
“หลังจากรับแจ้งความชุดสืบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนางกอบกุล และนายชัยธวัช เอาไว้ ก่อนจะได้รับการประสานจากสถานทูตว่า นางกอบกุล ได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวไว้ก่อนควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ส่วนนายชัยธวัช ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าเดินทางกลับประเทศไทยในวันเดียวกันนี้จึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้” พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าว
สอบสวน นายชัยธวัช ให้การว่า ตนอาชีพขายกล้วยทอดอยู่ที่ประเทศบาห์เรน โดยรู้จักกับนางกอบกุล ที่ประเทศบาห์เรน ต่อมานางกอบกุล ได้ขอให้ช่วยไปรับตัวผู้เสียหายทั้งสองที่สนามบินประเทศบาห์เรน และให้ส่งตัวไปที่โรงแรมเมโลดี้ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับผู้เสียหายให้ค้าประเวณี ซึ่งที่ผ่านมาตนพบว่ามีหญิงไทยหลายรายเต็มใจเดินทางไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน โดยจะมีแม่แทคเป็นผู้ติดต่อรับงานให้
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป