xs
xsm
sm
md
lg

ส่ง “หนุ่มวณิพก” เช็กทางจิตลักพาตัวเด็ก!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกตร.เข้ามาติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมพานายบุญแถมมานั่งแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
“พงศพัศ” เดินทางไปโรงพักบางขุนเทียน ตรวจสำนวน “ขอทานยอดกตัญญู” แห่งรายการคนค้นฅน ข้อหาลักพาตัวเด็ก ก่อนส่งตรวจสอบสภาวะทางจิต หรืออาการทางประสาทที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ คาด 2 สัปดาห์รู้ผล เพื่อพิจารณาอีกครั้งจะสั่งฟ้องหรือไม่

วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อตรวจสำนวนคดีที่ นายบุญแถม ศรีสุข อายุ 23 ปี หนุ่มนักดนตรีวณิพกที่เคยออกรายการ “คนค้นฅน” ถูกนางวิไลวรรณ บุตรสิงห์ อายุ 37 ปี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล หลังจากนายบุญแถมได้พาตัวน้องอาร์ม ลูกชายวัย 7 ขวบของนางวิไลวรรณ ไปอุปการะเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน

โดย พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวนี้มาตั้งแต่ต้น โดยเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายบุญแถมเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาเห็นว่าบางครั้งผู้ต้องหาอาจกระทำการใดๆ ลงไป โดยไม่รู้ข้อกฎหมายว่าตัวเองทำผิด โดยวันเกิดเหตุนายบุญแถมเล่นพิณอยู่ที่ตลาดวัดไทร ย่านบางขุนเทียน จนกระทั่งไปเจอกันกับน้องอาร์ม ก่อนจะรับตัวไปเลี้ยงดู โดยพ่อแม่ของน้องอาร์มก็มีปัญหาหย่าร้างกันตั้งแต่อายุ 7 เดือน ประกอบกับเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา นางวิไลวรรณผู้เป็นแม่ก็ถูกตำรวจจับข้อหาเสพยาบ้า ถูกส่งตัวไปบำบัดที่สถานกักขังหญิง จ.ปทุมธานี ระหว่างนั้นแม่น้องอาร์มฝากลูกไว้ให้เพื่อนบ้านดูแล จนกระทั่งเด็กไปพบนายบุญแถมและขอตระเวนไปตามที่ต่างๆ ด้วยกัน

ฐานะโฆษก ตร.กล่าวต่อไปว่า เมื่อนางวิไลวรรณพ้นโทษกลับมาจึงไม่เจอลูก จนมารู้ว่าลูกไปกับนายบุญแถม นักดนตรีวณิพก เลยตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน จากนั้นนายบุญแถมตั้งใจว่าจะพาตัวน้องอาร์มเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ บ้านเกิด แต่ปรากฏว่าไม่มีเอกสารใบเกิด ผอ.โรงเรียนจึงทำการตรวจสอบไปจนพบว่าก่อนหน้านี้น้องอาร์มเรียนอยู่ที่ชั้น ป.1 โรงเรียนวัดพรหมมานุกูล หรือโรงเรียนวัดไทร ทาง ผอ.ของโรงเรียนจึงทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน กระทั่งทราบว่านางวิไลวรรณ ไปแจ้งความเอาไว้เรื่องน้องอาร์มถูกลักพาตัว ทาง ผอ.ทั้ง 2 โรงเรียนจึงแจ้งให้ตำรวจที่ จ.อำนาจเจริญ ควบคุมตัวนายบุญแถมไว้ ก่อนประสานให้ตำรวจท้องที่ สน.บางขุนเทียน เดินทางไปรับตัวกลับมาดำเนินคดี

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตำรวจจะต้องเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน แต่การกระทำของนายบุญแถมนี้ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่ทางตำรวจเองก็ไม่ได้ใจร้าย เพราะรู้ดีว่านายบุญแถมมีนิสัยรักเด็ก และจากการตรวจสอบสภาพร่างกายกับจิตใจของน้องอาร์มแล้วผลปรากฏว่าไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในชั้นของพนักงานสอบสวนจะต้องใช้เวลาสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเห็นว่านายบุญแถมไม่สมควรที่จะถูกดำเนินคดีส่งตัวไปเรือนจำ แต่ควรจะส่งตัวไปตรวจสอบสภาวะทางจิต หรืออาการทางประสาทที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยไม่ต้องยื่นเรื่องประกันตัว เพราะเท่าที่สอบปากคำเบื้องต้นพบว่านายบุญแถมอาจจะมีอาการทางจิตจึงต้องส่งไปตรวจสอบเพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนคดี ส่วนตนก็ได้ขอร้องให้ทางสถาบันช่วยดูแลนายบุญแถมให้เป็นอย่างดีแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะทราบผล เมื่อผลออกมาแล้วก็จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป

ด้าน นายบุญแถมกล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เจอกับน้องอาร์มที่ตลาดวัดไทร โดยน้องอาร์มเข้ามาทักทายว่า ตนเล่นพิณไพเราะดีและขอไปอยู่กับตนด้วย ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เคยรับเด็กคนหนึ่งชื่อ น้องบาส ไปเลี้ยงดู แต่ขณะนี้ได้ส่งคืนให้พ่อแม่ไปแล้ว ประกอบกับตนเคยเลี้ยงหลานแท้ๆ ที่มีพ่อขี้เมาและแม่ไม่เอาใจใส่มาแล้วถึง 2 คน จึงทราบถึงปัญหาของเด็กๆ ดีและอยากจะช่วยเหลือน้องอาร์ม ไม่อยากเห็นเด็กเสียอนาคต อยากให้น้องอาร์มได้เรียนหนังสือ

นายบุญแถมกล่าวด้วยว่า ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน น้องอาร์มเป็นเด็กซนเหมือนเด็กทั่วไปที่อยู่ไม่เฉย เวลาที่ตนไปในร้านอินเทอร์เน็ตเพื่อเช็กข้อความจากแฟนคลับ น้องอาร์มก็จะขอเล่นเกมคอมพิวเตอร์ แต่ไม่ค่อยยอมกินข้าว ซึ่งหลังจากนี้ถ้าคุณแม่น้องอาร์มไม่รังเกียจตนจะขอแบ่งเงินเก็บในธนาคารที่มีอยู่ 10,000 บาท ให้คุณแม่น้องอาร์มเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาจำนวนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งตนจะนำไปซื้อพิณตัวใหม่มาขับกล่อมบทเพลงให้ชาวบ้านฟังกันต่อไป

ด้าน นางวิไลวรรณ ซึ่งพาน้องอาร์มมาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย กล่าวว่าตนดีใจที่นายบุญแถมดูแลลูกชายเป็นอย่างดี อีกทั้ง ผอ.โรงเรียนที่ จ.อำนาจเจริญ ได้ให้ข้อมูลกับตนว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายบุญแถมได้อุปการะเลี้ยงดูน้องอาร์มเป็นอย่างดี ตอนแรกตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูกมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ แต่พอรู้ว่านายบุญแถมไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูก ตนก็เลยไม่อยากจะเอาเรื่อง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนก็จะพาตัวน้องอาร์มไปเข้าเรียนโรงเรียนวัดพรหมมานุกูล หรือโรงเรียนวัดไทรตามปกติ หลังขาดเรียนมาแล้วกว่า 1 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานในระหว่างการแถลงข่าว พล.ต.ท.พงศพัศ ก็ได้เสนอตัวเป็นแฟนคลับและมอบเงินสดจำนวน 5,000 บาท ให้แก่นายบุญแถมไว้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเข้ารับการรักษาตัวที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แต่นายบุญแถมก็ฉีกซองนำเงินจำนวน 3,000 บาท แบ่งให้น้องอาร์ม พร้อมเขียนข้อความว่า “ขอให้แม่และน้องอาร์มรักกัน อย่าจากกันไปไหนอีก” ก่อนที่เจ้าตัวจะเล่นพิณร้องเพลงโชว์ให้ผู้สื่อข่าวฟัง 2 เพลง

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายบุญแถมส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เพื่อเข้ารับการบำบัดต่อไป

ทั้งนี้ ตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 14 หรือ พ.ร.บ.สุขภาพจิต ปี พ.ศ.2551 มาตรา 35 ระบุว่า หากผู้ต้องหารายใดเข้าข่ายว่ามีอาการทางจิต หรือทางประสาท จะต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัยอาการของผู้ต้องหารายนั้น เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนคดีว่าเห็นควรจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป

รวบ “ขอทานยอดกตัญญู” แห่งรายการคนค้นฅน ข้อหาลักพาตัวเด็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น