โจรเกลื่อนเมือง 1 ปี เหยื่อกว่า 70 รายโทร.ร้อง สวพ.FM 91 จอดรถถูกทุบกระจกขโมยทรัพย์สินมีค่ากว่าครึ่งล้าน 50% ผู้เสียหายจอดรถริมทาง วางทรัพย์สิน “เตะตาโจร” ถูกทุบกระจก ตามด้วยหน้าบ้านพัก และศาสนสถาน เหยื่อ 21 รายสูญกระเป๋าเงิน และทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 4 แสนบาท คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ถูกขโมยไปกว่า 10 เครื่อง และจากข้อมูลสถิติรับแจ้งผู้เสียหายเกือบ 10 รายถูกทุบกระจกรถในพื้นที่ สน.โชคชัย
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ น.ส.ไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการ ผู้จัดการบริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงานสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 เปิดเผยว่า ข้อมูล สถิติ การรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย และผู้พบเห็นเหตุการณ์ กรณีคนร้ายทุบกระจกรถยนต์แล้วขโมยทรัพย์สิน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ธ.ค.52 ผ่านทางหมายเลข 1644, 0-2562-0033-4 และ 0-2941-0847-50 ของทางสถานีฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 74 ครั้ง
สำหรับสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายหรือเจ้าของรถยนต์จอดรถแล้วถูกกลุ่มคนร้ายทุบกระจกรถเพื่อขโมยทรัพย์สินไปนั้น อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จำนวน 62 ครั้ง หรือคิดเป็น 83.78 ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 จังหวัดนนทบุรี จำนวน 7 ครั้ง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1 ครั้ง จังหวัดปทุมธานี 1 ครั้ง และในพื้นที่จังหวัดชลบุรี กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 จำนวน 3 ครั้ง
สำหรับทรัพย์สินมีค่าที่ผู้เสียหายถูกคนร้ายขโมยไปหลังจากทุบกระจกรถแล้ว พบว่า อันดับ 1 คือ กระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าถือ พร้อมทรัพย์สินมีค่า และเอกสารสำคัญ มีผู้เสียหายจำนวนทั้งสิ้น 21 ราย หรือคิดเป็น 28.37 ส่วนอันดับ 2 เป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ที่ผู้เสียหายวางไว้เป็นที่เห็นเด่นชัด เตะตาโจร ถูกโจรกรรมไปจำนวนทั้งสิ้น 13 เครื่อง ขณะที่อันดับ 3 พบว่ามีผู้เสียหาย หรือเจ้าของรถที่ถูกคนร้ายทุบกระจกเสร็จแล้วใช้เวลาเข้าไปนั่งรื้อค้นได้ทรัพย์สินมีค่า ประเภทโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่น mp3 กล้องถ่ายรูปดิจิตอล จำนวนกว่า 10 ราย
จากข้อมูลสถิติที่ได้รับแจ้งเหตุพบว่า คนร้ายบางกลุ่มไม่ได้มุ่งหมายเฉพาะทรัพย์สินมีค่าที่วางให้เห็นเด่นชัดเท่านั้น แต่กลุ่มคนร้ายยังได้ทำการเปิดฝากระโปรงรถยนต์เพื่อถอดอุปกรณ์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์บางอย่างเอาไปด้วย ปัจจุบันมีผู้เสียหายถูกทุบกระจกรถขโมยทรัพย์สินภายในรถ และอุปกรณ์เครื่องยนต์ไปแล้ว จำนวน 4 ราย
ขณะที่สถานที่ที่ผู้เสียหายหรือเจ้าของรถยนต์จอดรถแล้วถูกกลุ่มคนร้ายทุบกระจกรถ ขโมยทรัพย์สินมีค่าไปนั้น อันดับ 1 ได้แก่ ผู้ที่จอดรถริมทางสาธารณะ ทั่วไป มีผู้เสียหายทั้งสิ้น 37 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนผู้เสียหายทั้งหมดที่โทรศัพท์ ร้องเรียนเข้ามายังสถานีวิทยุ สวพ.FM 91 ส่วนอันดับ 2 พบว่า เป็นผู้ที่จอดรถไว้บริเวณหน้าบ้านพักอาศัยของตัวเอง อันดับ 3 เป็นลานจอดรถของวัด ศาสนสถาน สถานที่ที่ทุกคนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์คนร้ายทุบกระจกรถยนต์เพื่อขโมยทรัพย์สินมีค่า มีรถถูกทุบกระจกจำนวนมากถึง 8 คัน คิดเป็นร้อยละ 10.81 ตามด้วย สถานที่จอดรถของร้านอาหาร สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถอาคารที่พักอาศัย และสถานพยาบาล
ในจำนวนรถยนต์ที่ถูกก่อเหตุทุบกระจก และผู้เสียหายโทรศัพท์ร้องเรียนเข้ามายังสถานีฯ พบว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ รับผิดชอบของ สน.โชคชัย จำนวนถึง 9 ราย, พหลโยธิน และ สถานีตำรวจภูธร นนทบุรี พื้นที่ละ 5 ราย, สน.ปทุมวัน เกิดขึ้น 4 ครั้ง เท่ากับ สน. ประชาชื่น ส่วนพื้นที่ สน.ลาดพร้าว, พญาไท และสถานีตำรวจภูธร บางละมุง จังหวัดชลบุรี เกิดขึ้น 3 ครั้งเท่ากัน ขณะที่สถานที่จอดรถที่เคยมีผู้เสียหายจอดรถแล้วถูกคนร้ายทุบกระจกรถขโมยทรัพย์มากกว่า 1 ครั้ง ประกอบด้วย พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ เตาปูน ลุมพินี วังทองหลาง มักกะสัน ยานนาวา บางเขน และประเวศ
“เจ้าของรถยนต์หลายคัน พยายามนำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่จอดรถตามสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญหาย แต่ปัจจุบันต้องระวังเรื่อง เมื่อคนร้ายค้นหาทรัพย์สินมีค่าไม่เจอก็มักจะถอดอุปกรณ์เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนบางอย่างภายในรถไปขายในตลาดมืด ปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่เจ้าของรถยนต์ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2553 ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัด ควรระมัดระวังเลือกสถานที่จอดรถให้ปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ” น.ส.ไจตนย์กล่าว