xs
xsm
sm
md
lg

รวบหนุ่มใหญ่ลักทรัพย์นักกีฬาเทนนิส!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุจินต์  ซื่อตรง ชี้ตัวผู้ต้องหา
หนุ่มใหญ่เดนคุก ทำทีเข้ามาตีสนิทเหยื่อที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ สบโอกาสเหยื่อเผลอเข้าไปค้นหาทรัพย์สินในรถ ก่อนซุกซ่อนไว้ในกางเกงในแถมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ลูกสาวเหยื่อเห็นแจ้งตำรวจรวบตัวได้พร้อมของกลาง รับสารภาพเคยถูกจับแบบเดียวกันมาแล้วถึง 7 ครั้ง แต่ที่กลับมาก่อเหตุเพียงเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้

วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ต.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์บริเวณลานจอดรถ ข้างสนามเทนนิส ภายในสนามรัชมังคลาภิเษก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.ท.สกลรัตน์ เขมสวัสดิ์ รอง สวป.ช่วยราชการสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุพบ นายสุจินต์ ซื่อตรง อายุ 51 ปี เจ้าของรถโตโยต้า วิช สีดำ ทะเบียน ศล 5421 ชี้ให้จับกุมตัวนาย นายวินัย จันทร์สิทธิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.4 ต.วังจันทร์ อ.สามเงา จ.ตาก จากการตรวจค้นตัวนายวินัยพบเงินสด 1,200 บาท ธนบัตรรัฐบาลประเทศอินเดีย ฉบับละ 20 รูปี จำนวน 2 ฉบับ ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นใน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ห้องฝ่ายสืบสวน จากการตรวจค้นภายในตัวยังพบใบขายโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพแคนนอน 1 ตัว นาฬิกา 1เรือน

จากการสอบถาม นายสุจินต์ เจ้าของธุรกิจรับซื้อ กุ้งจ.จันทบุรี ผู้เสียหายให้การว่าเมื่อ12.00 น.ได้พา ด.ญ.ธัญธิตา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ร.ร.ศรีญานุสรณ์ บุตรสาวมาแข่งขันกีฬาเทนนิสรายการโตโยต้ามาสเตอร์ ดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก รอบชิงชนะเลิศ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยจอดรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวิส สีดำทะเบียน ศค 5421 กรุงเทพมหานคร ไว้ข้างสนามเทนนิสภายใน สนามรัชมังคลาฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย และปูเสื้อนั่งรออยู่ข้างรถ ระหว่างนั้นนายวินัยเดินเข้ามานั่งคุยด้วย บอกว่าลูกชายก็ชอบเล่นเทนนิสก็เลยคุยกันถูกคอ

นายสุจินต์กล่าวอีกว่า กระทั่งเวลา 16.00 น. การแข่งขันเสร็จสิ้น ลูกสาวตนชนะเลิศการแข่งขันจึงมาที่รถจะเปลี่ยนชุดเพื่อขึ้นไปรับถ้วยรางวัล ขณะที่บุตรสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังรถ ลูกสาวหันมาเห็นนายวินัยเข้าไปนั่งแอบซอกหลังเบาะคนขับค้นกระเป๋าเงิน ลูกสาวจึงตะโกนร้องเรียกตน และให้รปภ.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเกรงว่าคนร้ายจะหลบหนี พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามนายวินัยกลับตีหน้าซื่ออ้างไม่รู้ไม่เห็น กระทั่งค้นเจอของกลางซุกซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นใน ตนไม่นึกว่าคนที่นั่งคุยด้วยหลายชั่วโมงจะกลับกลายเป็นโจรไปได้

จากการสอบสวนนายวินัย ให้การรับสารภาพเพื่อนำเงินไปใช้หนีที่ขอยืมมา จำนวน 5,000 บาท ดอกร้อยละ 10 โดยก่อนหน้าน้ตนเคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว 7 ครั้งใน 7 ท้องที่ เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 49 จากนั้นก็ยึดอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยจะทำการตรวจสอบของกลางที่พบว่าได้มาอย่างไร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.หัวหมากดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น