ซัลโว 9 มม. กระหน่ำ 6 นัดโชเฟอร์รถทัวร์ โดย 3 นัดแรกกระสุนทะลุก้นไปตุงกระเป๋ากางเกงยีนส์ อีก 3 นัดทะลุออกบั้นเอวเสียชีวิตคาชานชาลาสายใต้ใหม่ต่อหน้าผู้โดยสารนับสิบ ขณะที่ตำรวจคาดปมสังหารโหดจากชู้สาว-ขัดแย้งผลประโยชน์บริษัท-ขัดแย้งเช็กยอดผู้โดยสารกับเพื่อนพนักงาน
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 05.45 น. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในลานจอดรถสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนีขาออก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถชานชาลาผู้โดยสารขาเข้าหมายเลข 5 เจ้าหน้าที่พบศพนายประเทือง อินเรน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 9 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง พนักงานขับรถทัวร์ สภาพนอนหงายจมกองเลือดสวมเสื้อโปโลสีขาวลายทางสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่ถุงเท้าสีดำ อยู่บนพื้นถนนข้างรถโดยสารปรับอากาศแบบวีไอพี 24 ที่นั่ง สีขาว-ชมพู ของบริษัท ทรัพย์ไพศาลทัวร์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 13-5940 กทม. เลขข้างรถ 988-2 วิ่งระหว่างกรุงเทพ-สตูล
จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่เนินหัวหน่าว จำนวน 6 นัด โดยกระสุนทะลุออกที่ก้นไปตุงอยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงยีนส์ จำนวน 3 หัว ส่วนอีก 3 หัว ทะลุออกบั้นเอวขวา ชายโครงด้านขวาถากแขนขวา ตรวจหาแล้วไม่พบหัวกระสุนที่หายไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่เกลื่อนพื้น 6 ปลอก จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายประพันธ์ เกื้อวงค์ อายุ 53 ปี พนักงานขับรถทัวร์คู่กะเดียวกัน อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 10 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ให้การว่าตนและผู้ตายเป็นคู่กะขับรถคันเดียวกันมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถรับผู้โดยสารจาก จ.สตูล มาส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่เวลาประมาณ 05.45 น. ส่วนตนนอนหลับพักผ่อนอยู่ในห้องด้านหลังเบาะคนขับ
นายประพันธ์ให้การต่อว่า เมื่อผู้ตายนำรถเข้ามาจอดที่ชานชาลาที่เกิดเหตุ ผู้โดยสารก็ทยอยเดินลงจากรถทางประตูด้านหลัง โดยระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูรถด้านหน้าเรียกผู้ตาย แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะคนขับไปเปิดประตูให้ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนจึงรีบลุกจากที่นอนออกมาดูก็พบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า ปกติผู้ตายเป็นคนร่าเริงสนุกสนานเฮฮา แต่เป็นคนใจร้อนบ้างบางเวลา แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยเห็นผู้ตายมีศัตรูหรือมีเรื่องราวอะไรกับใคร จะมีก็แต่เพียงทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มคนขับรถทัวร์ด้วยกันบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับต้องเอาชีวิตกัน ทำให้ตนไม่ทราบว่าผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด
ขณะที่พยานอีกรายซึ่งทำงานอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า ระหว่างที่ผู้ตายจอดรถส่งผู้โดยสารก็มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ สวมเสื้อคลุมลายพรางทหาร นุ่งกางเกงยีนส์ เดินไปเคาะเรียกผู้ตายที่ประตูหน้ารถ แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะมาเปิดประตูให้ คนร้ายก็ชักปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ทันที 6 นัด ต่อหน้าผู้โดยสารหลายสิบคนที่กำลังตรวจสอบสัมภาระ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหนีไปทางอาคารรับผู้โดยสารด้านหน้าสถานีขนส่ง โดยที่ไม่มีใครกล้าตามไป เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกคนร้ายฆ่าปิดปาก
ด้าน พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการสังหารเอาไว้ได้ 3 เรื่อง คือ เรื่องชู้สาว เรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัท และความขัดแย้งกันระหว่างผู้ตายกับพนักงานคนอื่นในเรื่องการเช็กยอดจำนวนผู้โดยสาร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเชิญตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์ ญาติ และคนใกล้ชิดของผู้ตายไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 05.45 น. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในลานจอดรถสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนีขาออก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถชานชาลาผู้โดยสารขาเข้าหมายเลข 5 เจ้าหน้าที่พบศพนายประเทือง อินเรน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 9 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง พนักงานขับรถทัวร์ สภาพนอนหงายจมกองเลือดสวมเสื้อโปโลสีขาวลายทางสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่ถุงเท้าสีดำ อยู่บนพื้นถนนข้างรถโดยสารปรับอากาศแบบวีไอพี 24 ที่นั่ง สีขาว-ชมพู ของบริษัท ทรัพย์ไพศาลทัวร์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 13-5940 กทม. เลขข้างรถ 988-2 วิ่งระหว่างกรุงเทพ-สตูล
จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่เนินหัวหน่าว จำนวน 6 นัด โดยกระสุนทะลุออกที่ก้นไปตุงอยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงยีนส์ จำนวน 3 หัว ส่วนอีก 3 หัว ทะลุออกบั้นเอวขวา ชายโครงด้านขวาถากแขนขวา ตรวจหาแล้วไม่พบหัวกระสุนที่หายไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่เกลื่อนพื้น 6 ปลอก จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายประพันธ์ เกื้อวงค์ อายุ 53 ปี พนักงานขับรถทัวร์คู่กะเดียวกัน อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 10 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ให้การว่าตนและผู้ตายเป็นคู่กะขับรถคันเดียวกันมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถรับผู้โดยสารจาก จ.สตูล มาส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่เวลาประมาณ 05.45 น. ส่วนตนนอนหลับพักผ่อนอยู่ในห้องด้านหลังเบาะคนขับ
นายประพันธ์ให้การต่อว่า เมื่อผู้ตายนำรถเข้ามาจอดที่ชานชาลาที่เกิดเหตุ ผู้โดยสารก็ทยอยเดินลงจากรถทางประตูด้านหลัง โดยระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูรถด้านหน้าเรียกผู้ตาย แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะคนขับไปเปิดประตูให้ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนจึงรีบลุกจากที่นอนออกมาดูก็พบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า ปกติผู้ตายเป็นคนร่าเริงสนุกสนานเฮฮา แต่เป็นคนใจร้อนบ้างบางเวลา แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยเห็นผู้ตายมีศัตรูหรือมีเรื่องราวอะไรกับใคร จะมีก็แต่เพียงทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มคนขับรถทัวร์ด้วยกันบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับต้องเอาชีวิตกัน ทำให้ตนไม่ทราบว่าผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด
ขณะที่พยานอีกรายซึ่งทำงานอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า ระหว่างที่ผู้ตายจอดรถส่งผู้โดยสารก็มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ สวมเสื้อคลุมลายพรางทหาร นุ่งกางเกงยีนส์ เดินไปเคาะเรียกผู้ตายที่ประตูหน้ารถ แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะมาเปิดประตูให้ คนร้ายก็ชักปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ทันที 6 นัด ต่อหน้าผู้โดยสารหลายสิบคนที่กำลังตรวจสอบสัมภาระ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหนีไปทางอาคารรับผู้โดยสารด้านหน้าสถานีขนส่ง โดยที่ไม่มีใครกล้าตามไป เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกคนร้ายฆ่าปิดปาก
ด้าน พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการสังหารเอาไว้ได้ 3 เรื่อง คือ เรื่องชู้สาว เรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัท และความขัดแย้งกันระหว่างผู้ตายกับพนักงานคนอื่นในเรื่องการเช็กยอดจำนวนผู้โดยสาร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเชิญตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์ ญาติ และคนใกล้ชิดของผู้ตายไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป