หนุ่มใหญ่ใส่เสื้อแดงตายปริศนา คาดเครียดกรอกเบียร์ผสมยาฆ่าแมลง

เจ้าหน้าที่ กทม.พบศพหนุ่มใหญ่สวมเสื้อแดง ผ้าขาวม้าคาดเอว นอนเสียชีวิตที่เชิงบันไดทางขึ้นอนุสาวรีย์ฝั่งศาลาว่าการ กทม.ตามร่างกายไม่มีร่องรอยต่อสู้ หรือถูกทำร้าย ตำรวจคาดผู้ตายอาจนำยาฆ่าแมลง-น้ำยาล้างห้องน้ำผสมเบียร์ดื่ม เหตุเครียดปัญหาส่วนตัว


วันนี้ (3 พ.ย.) เมื่อเวลา 08.10 น. พ.ต.ท.ชำนาญ คงเมือง พงส.(สบ 2) สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต บริเวณกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นอนุสาวรีย์ฝั่งศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50-55 ปี รูปร่างท้วม ตัดผมรองทรง สวมเสื้อโปโลคอปกสีแดง สวมทับดัวยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางสีแดงสลับขาว ผูกผ้าขาวม้าไว้ที่เอว กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมร้องเท้าหนังสีดำ สภาพนั่งหงายหลัง บริเวณริมฝีปากมีคราบน้ำลายแห้งกรังติดอยู่ ใกล้กันพบแว่นสายตา 1 อัน และขวดน้ำดื่มพลาสติกตัดกลางทำเป็นแก้วน้ำ ภายในมีน้ำสีเหลืองคล้ายเบียร์เหลืออยู่เล็กน้อย

จากการตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย และไม่พบเอกสารใดๆ ติดตัว มีเพียงเงินสดจำนวน 70 บาท บุหรี่ ไฟแช็ก ยาดม และใบเสร็จจากร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาราชดำเนิน ที่ระบุว่าซื้อเบียร์ 1 กระป๋อง และน้ำดื่ม 1 ขวด โดยเมื่อเวลา 22.00 น.ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม. เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ พร้อมทั้งส่งศพผู้ตายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่าผู้ที่พบศพเป็นเจ้าหน้าที่ กทม.ที่มารดน้ำต้นไม้บริเวณดังกล่าว ส่วนผู้ตายนั้นยังไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใคร ตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย ซึ่งคาดว่าผู้ตายอาจจะนำยาฆ่าแมลง หรือน้ำยาล้างห้องน้ำมาผสมกับเบียร์ดื่ม เนื่องจากบริเวณปากผู้ตายพบคราบน้ำลายลักษณะฟูมปาก รวมถึงแก้วน้ำที่พบใกล้กับผู้ตายมีกลิ่นคล้ายน้ำยาสารเคมี

ส่วนเสื้อแดงที่ผู้ตายสวมใส่นั้น ไม่ได้มีโลโก้ระบุว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง จึงยังไม่อยากนำเรื่องดังกล่าวไปโยงกับการเมือง อีกทั้งผู้ตายก็ไม่ได้มีจดหมายระบุสาเหตุการฆ่าตัวตายทิ้งเอาไว้ ถ้าหากเป็นการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องปัญหาส่วนตัวมากกว่า ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวญาติของผู้ตายมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุรวมถึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดต่อไป