xs
xsm
sm
md
lg

“วงกต” ถกตั้งศูนย์จับโจรลักรถ ยอด จยย.หายพุ่ง 3 หมื่นคันต่อปี

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร.
“วงกต” ถกวางกรอบนโยบายตั้งศูนย์ปราบปรามแก๊งโจรลักรถ ชู “นครบาล” เป็นแม่แบบวางระบบลุยจับ ระบุสถิติรถ จยย.หาย 2-3 หมื่นคันต่อปี เผย พื้นที่ บช.ภ.1, 2 และ 7 วายร้ายฉกรถ จยย. และรถยนต์ออกอาละวาดมากสุด เน้นต้องเช็กผลการทำงานทุกเดือน

วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร ผบก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหารือในการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยภายหลังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.วงกต กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณาเห็นว่าปัญหาการโจรกรรมลักรถจักรยานยนต์และรถยนต์เป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และเป็นอาชญากรรมที่รุนแรง จึงมีการประสานงานร่วมกันระหว่างศูนย์ปฏิบัติการของ ตร.กับศูนย์ของ บช.น. เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน โดยในวันนี้เป็นการประชุมการเชื่อมโยงแผนปฏิบัติเข้าด้วยกัน ซึ่งพบว่าพื้นที่มีการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์มากที่สุดคือพื้นที่ในนครบาลและปริมณฑล ได้แก่ พื้นที่ บช.ภ.1, 2 และ 7 ซึ่งมีมากที่สุดในประเทศไทย

สำหรับยอดที่มีการโจรกรรมต่อปีของรถจักรยานยนต์มี 20,000-30,000 คันต่อปี ส่วนรถยนต์ 2,000-3,000 คันต่อปี โดยตำรวจตั้งเป้าว่าจะจัดการปัญหาเรื่องนี้ออกไปให้ได้ และจะใช้ บช.น.เป็นแม่แบบในการวางระบบการทำงาน โดยกองบังคับการต่างๆ ร่วมในการเป็นเจ้ายุทธศาสตร์ในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านผู้ที่เกี่ยวกับการโจรกรรมโดยตรง และส่วนผู้ที่กำหนดความต้องการทั้งหลาย โดยฝ่ายที่โจรกรรมโดยตรงจะแบ่งเป็น รายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ จะแบ่งงานกันทำ

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มที่รับซื้อสิ่งของที่ขโมยมา ได้แก่ ร้านของเก่า เต็นท์ขายรถยนต์ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนในการกระทำความผิด และการจัดการเกี่ยวกับหมายจับที่ค้างอยู่ ซึ่งจะดำเนินการในทุกเรื่อง และใช้ทุก บก.มาร่วมผลัดการเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการตามแผน เพื่อวางระบบการทำงานกัน และเมื่อ บช.น.มีความพร้อมในการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จะให้ บช.ภ.1, 2 และ 7 มาร่วมปฏิบัติงานและเรียนรู้รูปแบบการทำงาน โดยทุกเดือนจะมีการประชุมการประเมินผลกัน ซึ่งถือว่าโชคดีที่ได้ทีมปฏิบัติงานดีและเข้มแข็ง ซึ่งมี พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นทีมงานเก่าที่เคยทำคดีเรื่องการลักรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาก่อน และมั่นใจว่าในเวลาอันใกล้จะมีการดีเดย์ในแต่ละรอบของวาระ โดยมีการระดมหมายจับ ซึ่งให้สถานีตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบรายย่อย ส่วนรายกลางจะให้ บก.น.1 รับผิดชอบ ส่วนรายใหญ่จะให้ บช.น.รับผิดชอบ ขณะเดียวกันจะนำข้อมูลเก่าที่มีอยู่นำมาศึกษา เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า พล.ต.อ.วงกต มาให้นโยบายให้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะให้ บช.น.เป็นศูนย์กลาง โดยจะให้เจ้าหน้าที่จากภาคอื่นๆ เข้ามาดูการทำงานของ บช.น.ด้วย และบช.น.จะเป็นผู้กำหนดในการทำงาน โดยให้ทุก บก.เป็นเจ้าภาพของแต่ละด้าน เช่น บก.น.2 จะเป็นผู้ดูแลร้านรับซื้อของเก่า

ส่วน บก.น.1 อาจจะดูเรื่องหมายจับและเต็นท์รถ และเมื่อมีการแบ่งงานกันการทำงานซึ่งจะมีความรวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องให้บก.ใดบก.หนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ โดยตนกับ พล.ต.ต.สุเมธ จะเป็นหัวหน้าหลักในการดูแลเรื่องทั้งหมด และจะมีบาง บก.ที่ต้องรับผิดชอบการประสานต่างๆ เพราะบางทีรถที่ขโมยมามักจะมีการนำออกไปขายตามชายแดนด้วย ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ในพื้นที่ของ บช.น.รถจักรยานยนต์อยู่ที่ประมาณ 4,000 คันต่อปี ซึ่งนโยบายที่ได้รับมาจะต้องมีการกำจัดกับกลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้ให้หมด

ส่วนการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือของ บช.น.กรณีรถหาย แจ้งได้ที่ “รถหายดอตคอม” และสายด่วนแจ้ง 191
กำลังโหลดความคิดเห็น