ตราด - เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ทำลายวัตถุระเบิดครั้งใหญ่หลังเก็บกู้ได้จำนวนมาก ระบุ พื้นที่จันท์-ตราด ยังมีพื้นที่ยังไม่เก็บกู้อีกประมาณ 312 ตารางกิโลเมตร เตือนร้านของเก่าพบวัตถุระเบิดต้องแจ้ง
วันนี้ (19 ม.ค.) น.อ.บำรุงรัก สรัคคานนท์ ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม กองทัพเรือ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ และ น.อ.กิตติคุณ นาคสุก ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ร่วมนำวัตถุระเบิดที่ประกอบด้วย ทุ่นระเบิดจำนวน 130 ทุ่น และลูกปืน ค.82 จำนวน 100 ลูก มาทำลายโดยทำการขุดหลุมขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 80 ซม.จำนวน 2 หลุม พร้อมนำระเบิดและฝักแค เพื่อสำหรับจุดระเบิดที่ใช้ชนวนหน่วงเวลานาน 5 นาที ซึ่งในเวลา 11.00 น.ก็เกิดระเบิดเสียงดังไปทั่วบริเวณท่ามกลางควันดำที่พวยพุ่งออกมากสูงกว่า 1 กิโลเมตร
น.อ.บำรุงรัก กล่าวว่า การทำงานวัตถุระเบิดในครั้งนี้เป็นวัตถุระเบิดจากเมื่อครั้งสงครามเขมรแดงกับเขมรเฮงสัมริน ที่ต่อสู้กัน และเขมรแดงเข้ามาในพื้นที่ไทย และได้วางกับระเบิดเป็นแนวป้องกันข้าศึก แต่เมื่อสงครามสงบไม่ได้มีการขุดออกไปจากพื้นที่ทำให้หลงเหลืออยู่ เมื่อประชาชนไทยเข้าไปในพื้นที่จึงเกิดระเบิดทำอันตรายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางหน่วยได้รับการสนับสนุนจาก UN เพื่อให้เข้ามาเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้หมดจากพื้นที่ชายแดนไทย แล้วส่งคืนพื้นที่ให้กับฝ่ายปกครองต่อไป โดยในพื้นที่ จ.ตราด และ จันทบุรี ซึ่งปัจจุบัน จ.ตราด เหลือพื้นที่ใน จ.ตราด จำนวน 1.7 ตารางกิโลเมตร จากจำนวนที่ยังไม่ได้เก็บกู้ 312 ตารางกิโลเมตร ซึ่งการทำลายครั้งนี้ เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
น.อ.บำรุงรัก กล่าวอีกว่า หากประชาชนที่พบ และเห็นวัตถุระเบิดฝังในพื้นที่ทำกินหรือนอกพื้นที่ รวมทั้งร้านของเก่าที่มีการนำลูกระเบิดมาตัด แม้ลูกระเบิดจะเป็นของเก่า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกที่ยังสามารถทำงานได้ ซึ่งจะทำให้เกิดระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้ จึงไม่ควรจะปฏิบัติและรีบแจ้งให้ทางราชการทราบโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ น.อ.บำรุงรัก สรัคคานนท์ และคณะ ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เพื่อรับรายงานผลการปฏิบัติงานที่พื้นที่ด้วย