xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งไต้หวันอ้างเป็น ตร.อุ้มรีดเหยื่อเรียกค่าไถ่ 30 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ต้องหาที่ตำรวจกองปราบจับกุมได้
กองปราบตามตะครุบแก๊งไต้หวันแอบอ้างเป็นตำรวจไทย-ไต้หวัน-จีน ลักพาตัวเหยื่อผู้เสียหายชาวไต้หวัน 5 รายจากสนามบินสุวรรณภูมิไปกักขังอยู่บ้านพักแถวถนนพัฒนาการ เรียกค่าไถ่ 30 ล้านบาท 2 ใน 5 คนร้ายยังให้การปฏิเสธ ตร.เชื่อ ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน เนื่องจากมีการวางแผนมาอย่างดี


วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 13.30 น.ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไต้หวัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักพาตัวชาวไต้หวันไปเรียกค่าไถ่ ประกอบด้วย 1.นายอำพล แซ่หว่าง อายุ 20 ปี สัญชาติไทย จับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. 2.นายศราวุธ แซ่หยาง อายุ 23 ปี สัญชาติไทย 3.นายเฉิน จื้อ เหวิ่น อายุ 23 ปี สัญชาติไต้หวัน ได้ที่บ้านเลขที่ 1471/20 ถนนพัฒนาการ ซอย 31/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. 4.นายสมุทร หยางยิง อายุ 28 ปี สัญชาติไทย 5.นายจาง จา หลุน หรือต้าเกอ อายุ 30 ปี สัญชาติไต้หวัน จับกุมได้ที่ริมถนนศรีนครินทร์ ใกล้แยกพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.และ 6.นายชิงฉาง แซ่หลี อายุ 26 ปี สัญชาติไทย จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 59/169 หมู่บ้านกลางเมือง ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พร้อมกันนั้นได้ยึดของกลาง ได้แก่ ซีพียูและจอคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 ตัว เครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง เงินสด 1 หมื่นบาท กระเป๋าเดินทาง 4 ใบ หนังสือเดินทางไต้หวัน 3 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง โซ่พร้อมแม่กุญแจ และอุปกรณ์การเล่นพนันอีกจำนวนหนึ่ง

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้รับการประสานจากสถานกงสุลไต้หวันว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวไต้หวันได้ร่วมกันลักพาตัวผู้เสียหายชาวไต้หวันไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 30 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ตำรวจไต้หวัน และตำรวจประเทศจีน ก่อนลงมือลักพาตัวเหยื่อจากสนามบินสุวรณภูมิ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันลักพาตัวผู้เสียหาย 5 คน ทั้งหมดสัญชาติไต้หวัน ประกอบด้วย นายเติ้น ลี่ เหวย (TENG LI WEI) นักธุรกิจค้าเสื้อผ้า นางสี อี้ เฟิน (HSU YU FEN) ภรรยา ด.ญ.เติ้น อี้ แจ้ (TENG YU CHIEN) อายุ 9 ปี ด.ช.เติ้น อี้ ถิง (TENG YU TING) อายุ 7 ปี บุตรชายและบุตรสาว และนางหย่วน อี้ อิง (JUAN YU YING) อายุ 57 ปี สัญชาติไต้หวัน ย่าของเด็กทั้งสอง โดยกักขังไว้ที่บ้านเลขที่ 1471/20 ถนนพัฒนาการ ซอย 31/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.โดยแยกตัวนายเติ้น ลี่ เหวย ไปกักขังที่บ้านเลขที่ 59/169 หมู่บ้านกลางเมือง ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมกับบังคับให้เหยื่อโอนเงินผ่านบริษัทตัวแทนในประเทศไทยรวม 2 ครั้ง ๆ ละ 4.5 แสนบาท ก่อนจะพาตัวนางสี อี้ เฟิน เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์เพื่อให้ไปติดต่อกับญาติหาเงินเพิ่มเติมเพื่อนำมาไถ่ตัวผู้เสียหาย

ผบช.ก.กล่าวต่อว่า หลังจากชุดสืบสวนได้ข้อมูลที่พักซึ่งผู้เสียหายถูกกักขังตัวไว้แล้วจึงวางแผนเข้าช่วยหลือทั้งหมดไว้ได้ซึ่งพบว่าผู้เสียหายมีอาการอ่อนเพลียและอยู่ในอาการหวาดกลัวตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายซึ่งพบว่าทั้งหมดสภาพร่างกายปกติดี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นเด็ก 2 คนนั้นจะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกระยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้เข้าใจว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาอย่างดีและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายก่อนจะเดินทางมาประเทศไทย โดยเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย แต่กลุ่มที่ลงมือก่อเหตุในประเทศไทยขณะนี้จับกุมไว้ได้ทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นและเอาตัวเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่

สอบสวนนายอำพลรับสารภาพว่าเป็นผู้รับเงินที่เหยื่อโอนมาให้ ส่วนนายศราวุธ และนายเฉิน จื๊อ เหวิ่น รับว่า ได้อ้างตัวเป็นตำรวจไทยและตำรวจไต้หวัน ก่อนลงมือลักพาตัวเหยื่อมากักขังไว้ ขณะที่ นายสมุทร และนายจาง จา หลุน ซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจจีนนั้น ปฏิเสธที่จะให้การใดๆ อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติของนายจาง จา หลุน พบว่าเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้อีกด้วย ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มีการแถลงข่าวอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ได้พาผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางมาเพื่อชี้ตัวกลุ่มผู้ต้องหา โดยทันทีที่นางหย่วน อี้ อิง พร้อมกับหลานสาวและหลานชาย ได้พบนายเติ้น ลี่ เหวย บุตรชายของตนก็ถึงกับร้องไห้และโผเข้าสวมกอดด้วยความดีใจที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาทั้งหมดไปพักก่อนจะร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไต้หวันร่วมสอบปากคำในรายละเอียดต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น