ปส.รวบสาวใหญ่ชาวลาว-หนุ่มไนจีเรียค้ากัญชา และโคเคน โดยขนจากลาวนำมาพักไว้ตามห้องพักไม่มีเลขที่ หรือตามอพาร์ตเมนต์ในเขต กทม. ยึดของกลางกัญชาอัดแท่ง 11 กิโลกรัม โคเคน 1 ก้อน หนักกว่า 12 กรัม
วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รรท.รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ชยพจน์ หาสุณหะ รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.สุพิชญ์ ลิมปาภรณ์ ผกก.1 บก.ปส.2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางแอล สิทธิพันธ์ อายุ 42 ปี สัญชาติลาว นายอิฟฟานยี สตีเฟ่น โอโคซ่า อายุ 32 ปี และนายโพรไม อีจิโอฟอร์ อายุ 27 ปี ทั้ง 2 คนถือสัญชาติไนจีเรีย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 11 แท่ง น้ำหนักประมาณ 11 กิโลกรัม โคเคน 1 ก้อน น้ำหนักประมาณ 12.8 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.หาญพล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำกัญชาจากฝั่งประเทศลาว เข้ามาพักไว้ตามที่ต่าง ๆ ประกอบด้วย ห้องพักไม่มีเลขที่ อาคารพัชรี-อารีย์ อพาร์ตเม้นต์ ซอยอ่อนนุช 46 แขวงและเขตประเวศ อาคารอนุสรณ์คร์อท 8 ซอยรามคำแหง 50 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ และที่ห้องพักเลขที่ 84/65 คอนโดมิเนียมยงเจริญ คอมเพล็กซ์ ซอยสุภาพงษ์ 3 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาแยกกันพักอาศัยอยู่ เพื่อเฝ้ายาเสพติด ก่อนรอจำหน่ายให้กับลูกค้า
พล.ต.ต.หาญพล กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนเพื่อวางแผนจับกุม จนเมื่อเวลา 03.00 น.วานนี้ (2 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นักค้ายากลุ่มนี้กำลังจะลำเลียงกัญชามาเก็บไว้ที่ห้องพักทั้ง 3 แห่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ทั้ง 3 จุด จนกระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหาจึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ
ด้าน พ.ต.อ.สุพิชญ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า นางแอลเป็นคนขนกัญชาทั้งหมดเข้ามาจากฝั่งประเทศลาว เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มชาวไนจีเรีย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการติดต่อค้ากัญชากันระหว่างชาวลาวกับชาวไนจีเรีย เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีข้อมูลมาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนางแอล เพิ่มอีก 1 ข้อหา ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รรท.รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ชยพจน์ หาสุณหะ รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.สุพิชญ์ ลิมปาภรณ์ ผกก.1 บก.ปส.2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางแอล สิทธิพันธ์ อายุ 42 ปี สัญชาติลาว นายอิฟฟานยี สตีเฟ่น โอโคซ่า อายุ 32 ปี และนายโพรไม อีจิโอฟอร์ อายุ 27 ปี ทั้ง 2 คนถือสัญชาติไนจีเรีย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 11 แท่ง น้ำหนักประมาณ 11 กิโลกรัม โคเคน 1 ก้อน น้ำหนักประมาณ 12.8 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.หาญพล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำกัญชาจากฝั่งประเทศลาว เข้ามาพักไว้ตามที่ต่าง ๆ ประกอบด้วย ห้องพักไม่มีเลขที่ อาคารพัชรี-อารีย์ อพาร์ตเม้นต์ ซอยอ่อนนุช 46 แขวงและเขตประเวศ อาคารอนุสรณ์คร์อท 8 ซอยรามคำแหง 50 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ และที่ห้องพักเลขที่ 84/65 คอนโดมิเนียมยงเจริญ คอมเพล็กซ์ ซอยสุภาพงษ์ 3 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาแยกกันพักอาศัยอยู่ เพื่อเฝ้ายาเสพติด ก่อนรอจำหน่ายให้กับลูกค้า
พล.ต.ต.หาญพล กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนเพื่อวางแผนจับกุม จนเมื่อเวลา 03.00 น.วานนี้ (2 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นักค้ายากลุ่มนี้กำลังจะลำเลียงกัญชามาเก็บไว้ที่ห้องพักทั้ง 3 แห่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ทั้ง 3 จุด จนกระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหาจึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ
ด้าน พ.ต.อ.สุพิชญ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า นางแอลเป็นคนขนกัญชาทั้งหมดเข้ามาจากฝั่งประเทศลาว เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มชาวไนจีเรีย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการติดต่อค้ากัญชากันระหว่างชาวลาวกับชาวไนจีเรีย เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีข้อมูลมาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนางแอล เพิ่มอีก 1 ข้อหา ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางดำเนินคดีต่อไป