ดีเอสไอจับหญิงไทยเมียผู้ก่อการร้ายวางระเบิดสนามบินสเปน หลังใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตหนังสือเดินทางปลอมส่งขายให้สมาชิกก่อการร้าย และแก๊งอาชญากรรมทั่วโลก ตรวจยึดของกลางเอกสารเดินทางปลอมได้กว่า 400 เล่ม
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 11.30 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยตัวแทนสถานทูตสเปนและอังกฤษ ร่วมแถลงข่าวการจับกุม น.ส.อรวรรณ ลิ้มประเสริฐ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาปลอมแปลงหนังสือเดินทางปลอมรายใหญ่ ภรรยาของนายมาร์ก กูราน ฟาริก ชาวปากีสถานถือสัญชาติเบลเยียม สมาชิกขบวนการก่อการร้ายสากลที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติสเปนจับกุมพร้อมพวกรวม 13 คน ไปก่อนหน้าฐานก่อวินาศกรรมสนามบิน เหตุเกิดเมื่อ ธ.ค.49 และวางระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองมาดริด ประเทศสเปน เหตุเกิดเมื่อ มี.ค.47 จนมีผู้เสียชีวิต 191 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 1,800 คน พร้อมของกลางแผ่นพลาสติดลามิเนท 20 แผ่น แผ่นหน้าข้อมูลบุคคล 20 แผ่น และเอกสารเดินทางปลอมกว่า 400 เล่ม โดยจับกุมได้บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตพญาไท กทม.เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.52
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุวินาศกรรมวางระเบิดสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินรวม 3 จุด ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยขบวนการก่อการร้ายสากล มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนั้นตำรวจสเปนได้สืบสวนสอบสวนกระทั่งจับกุมนายมาร์ก กูราน ฟาริก ชาวปากีสถาน พร้อมพวกรวม 13 คน สมาชิกขบวนการก่อการร้าย จากการตรวจสอบพนายมาร์ก กูราน ฟาริก มีภรรยาเป็นชาวไทย ส่วนหนังสือเดินทางของกลุ่มผู้ต้องหาก็พบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอมที่ผลิตในประเทศไทย ตำรวจสเปนจึงได้ประสาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ ให้ตรวจสอบประวัติ น.ส.อรวรรณ ลิ้มประเสริฐ พร้อมขยายผลจับกุมเครือข่ายทำหนังสือเดินทางปลอมเครือข่ายข้ามชาติดังกล่าว
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า จากการแกะรอยของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองอธิบดีดีเอสไอ ทำให้ทราบว่า น.ส.อรวรรณ ลิ้มประเสริฐ ผู้ต้องหาจะทำหน้าที่เช่าตู้ ปณ.ในห้างสะดวกซื้อย่านสะพานควาย รัชดาภิเษก และพระราม 4 เพื่อรับหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยมาจากต่างประเทศโดยสมาชิกก่อการร้าย ก่อนนำมาให้แก๊งปลอมหนังสือเดินทางในไทยผ่าเล่ม ปลอมแปลงหนังสือเดินทางขึ้นมาใหม่ เพื่อส่งขายให้สมาชิกก่อการร้ายหรือแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติในราคาเล่มละ 1 หมื่นเหรียญ หรือประมาณ 3 แสนบาท ดีเอสไอจึงได้ออกหมายจับขณะนั้น กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากการขยายผลดีเอสไอพบว่า มีแก๊งปลอมหนังสือเดินทาง ที่รับหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยมาจาก น.ส.อรวรรณ ลิ้มประเสริฐ เพื่อนำไปผ่าเล่มปลอมหนังสือเดินทางขึ้นมาใหม่ก่อนส่งขาย จึงวางแผนล่อซื้อจับกุมไปเมื่อกลางปี 52 ประกอบด้วยนาย นายอาซาด กียานี่ อายุ 33 ปี สัญชาติปากีสถาน ทำหน้าที่จำหน่ายหนังสือเดินทาง นางเนาวรัตน์ คิยานิ อายุ 43 ปี เป็นผู้ช่วยจำหน่าย นายอาแว หรือแก้ว อายุ 38 ปี ชาวโรฮิงยา เป็นผู้ผลิตหนังสือเดินทางปลอมรายใหญ่ น.ส.วิไลพร นิลแนบแก้ว อายุ 28 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ผลิต และนายอนนูดูไร ซิทซาเบซาน หรือซาบี อายุ 35 ปี สมาชิกกลุ่มพยัคทมิฬอีแลม เป็นผู้จำหน่าย ยึดของกลางเป็นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศอังกฤษ 150 เล่ม ฝรั่งเศส 19 เล่ม เบลเยี่ยม 19 เล่ม และอุปกรณ์รวมกว่า 429 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนจับกุมแก๊งปลอมหนังสือเดินทางรายใหญ่อีก 2 แก๊ง
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นชาวโรฮิงยาและสมาชิกกลุ่มพยัคทมิฬอีแลม จากข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคงพบว่า ผู้ต้องหาจะรับจ้างขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในการค้าอาวุธ ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มพยัคทมิฬอีแลม หลังถูกทางการศรีลังกาปราบปรามอย่างหนักได้หลบหนีออกประเทศ โดยยังมีทรัพย์สินเหลือเป็นจำนวนมาก กลุ่มพยัคทมิฬอีแลม ส่วนหนึ่งได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ทำหน้าที่สนับสนุนขบวนการก่อการร้ายในเรื่องที่พักหรืออำนวยความสะดวก ขณะนี้กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด