สาววัย 25 กลับรถยนต์จุดห้ามกลับชน จยย.2 ต่างด้าวเจ็บสาหัสหน้าตลาดบางกอกน้อย กลับลงมาด่า ชาวบ้านทนไม่ได้ช่วยเรียกร้องค่ารักษา อ้าง “กูหลานจุมพล!” ขู่โยกย้ายสามีตำรวจ 24 ชม.
วานนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 21.00น. ร.ต.ต.นพรัตน์ จงเชิดชูตระกูล ร้อยเวร (สบ 1) สน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งความจาก น.ส.สินีรินทร์ ศรีครุฑรานนท์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/7 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.ว่า ถูก น.ส.พัทธนันท์ วิยาภรณ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ซ.สิรินธร 2 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. และนางอุษา วิยาภรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 168 ซ.สิรินธร 2 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ซึ่งแอบอ้างตนเป็นหลานของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. ข่มขู่พูดจาดูหมิ่น และทำร้ายร่างกาย โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์หลายคนเดินทางมาเป็นพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงยัง สน.บางกอกน้อย น.ส.พัทธนันท์ และนางอุษา ซึ่งเป็นแม่ได้รีบเดินทางกลับทันที โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพ น.ส.พัทธนันท์ ยังกล่าวว่าจะฟ้องร้องเนื่องจากละเมิดสิทธิตน
ด้าน น.ส.สินีรินทร์ เล่าว่า เมื่อเช่วงเย็นที่ผ่านมา น.ส.พัทธนันท์ ได้ขับรถยนต์โตโยต้าอัลติส สีเทา ทะเบียน ฌอ 8894 กทม. กลับรถในจุดห้ามกลับบริเวณหน้าตลาดบางกอกน้อย แล้วไปชนกับรถจักรยานต์ของวัยรุ่นชาวต่างด้าว 2 คนไม่ทราบสัญชาติที่ขับขี่ซ้อนกันมาเสียงดังสนั่นจนกระเด็นไปหลายตลบ ทำให้ทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส คนหนึ่งศีรษะแตก หลังเกิดเหตุก็วิ่งหนีไป ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์คางแตก เมื่อลุกขึ้นมาได้พยายามจะสตาร์ทรถขับออกไป แต่ น.ส.พัทธนันท์ ก็ลงมาจากรถยนต์และเข้ามาต่อว่า และพยายามให้ชาวต่างด้าวที่บาดเจ็บยกมือไหว้ขอโทษ ตนและชาวบ้านที่อยู่ในตลาดที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม แม้วัยรุ่นทั้ง 2 คนจะเป็นชาวต่างด้าวแต่ก็ขับขี่มาตามทางตรง ตนจึงพยายามเข้าไปห้ามปราม และขอให้ น.ส.พัทธนันท์ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้วัยรุ่นต่างด้าวคนดังกล่าว
“แม้วัยรุ่นทั้ง 2 คนจะเป็นชาวต่างด้าว แต่เขาก็ไม่ได้ผิดและยังได้รับบาดเจ็บมาก น.ส.พัทธนันท์ ยังจะให้ขอโทษ และดูถูกพวกเขาว่าเป็นต่างด้าวและกล่าวหาว่าเมา ฉันจึงทนไม่ได้พยายามเข้าไปช่วยพูดเรียกร้องค่ารักษา ก็ถูก น.ส.พัทธนันท์ ด่าว่า “มา เ-...ือกอะไรด้วย แล้วมึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร กูเป็นหลานจุมพล” ฉันจึงบอกว่าแฟนฉันก็เป็นตำรวจเหมือนกัน แต่เห็นคนทำไม่ถูกก็ทนไม่ได้ น.ส.พัทธนันท์ ก็ข่มขู่ว่าแล้วจะทำไม แฟนอยู่ที่ไหน อยากถูกย้ายภายใน 24 ชั่วโมงไหม ทั้งยังเข้ามาผลักไหล่แล้วกระชากเสื้อฉัน ชาวบ้านจึงเข้ามารุมต่อว่า น.ส.พัทธนันท์ จึงบอกว่าจะไปแจ้งความที่ สน.บางกอกน้อย ฉันและชาวบ้านจึงตามมา” น.ส.สินีรินทร์ กล่าว
น.ส.สินีรินทร์ กล่าวว่า เมื่อมาถึงที่ สน.บางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไกล่เกลี่ยให้ยุติทั้งสองฝ่ายเนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีเล็กน้อย แต่ตนได้ยินนางอุษาพูดดูถูกตนและชาวบ้านกับลูกสาวก่อนกลับว่า “กลับเถอะอย่าไปยุ่งกับพวกนี้เลย มันคนชั้นต่ำ” ตนจึงทนไม่ได้ และเกรงว่าสามีจะถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมจึงแจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นหลักฐาน
วานนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 21.00น. ร.ต.ต.นพรัตน์ จงเชิดชูตระกูล ร้อยเวร (สบ 1) สน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งความจาก น.ส.สินีรินทร์ ศรีครุฑรานนท์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/7 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.ว่า ถูก น.ส.พัทธนันท์ วิยาภรณ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ซ.สิรินธร 2 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. และนางอุษา วิยาภรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 168 ซ.สิรินธร 2 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ซึ่งแอบอ้างตนเป็นหลานของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. ข่มขู่พูดจาดูหมิ่น และทำร้ายร่างกาย โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์หลายคนเดินทางมาเป็นพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงยัง สน.บางกอกน้อย น.ส.พัทธนันท์ และนางอุษา ซึ่งเป็นแม่ได้รีบเดินทางกลับทันที โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพ น.ส.พัทธนันท์ ยังกล่าวว่าจะฟ้องร้องเนื่องจากละเมิดสิทธิตน
ด้าน น.ส.สินีรินทร์ เล่าว่า เมื่อเช่วงเย็นที่ผ่านมา น.ส.พัทธนันท์ ได้ขับรถยนต์โตโยต้าอัลติส สีเทา ทะเบียน ฌอ 8894 กทม. กลับรถในจุดห้ามกลับบริเวณหน้าตลาดบางกอกน้อย แล้วไปชนกับรถจักรยานต์ของวัยรุ่นชาวต่างด้าว 2 คนไม่ทราบสัญชาติที่ขับขี่ซ้อนกันมาเสียงดังสนั่นจนกระเด็นไปหลายตลบ ทำให้ทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส คนหนึ่งศีรษะแตก หลังเกิดเหตุก็วิ่งหนีไป ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์คางแตก เมื่อลุกขึ้นมาได้พยายามจะสตาร์ทรถขับออกไป แต่ น.ส.พัทธนันท์ ก็ลงมาจากรถยนต์และเข้ามาต่อว่า และพยายามให้ชาวต่างด้าวที่บาดเจ็บยกมือไหว้ขอโทษ ตนและชาวบ้านที่อยู่ในตลาดที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม แม้วัยรุ่นทั้ง 2 คนจะเป็นชาวต่างด้าวแต่ก็ขับขี่มาตามทางตรง ตนจึงพยายามเข้าไปห้ามปราม และขอให้ น.ส.พัทธนันท์ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้วัยรุ่นต่างด้าวคนดังกล่าว
“แม้วัยรุ่นทั้ง 2 คนจะเป็นชาวต่างด้าว แต่เขาก็ไม่ได้ผิดและยังได้รับบาดเจ็บมาก น.ส.พัทธนันท์ ยังจะให้ขอโทษ และดูถูกพวกเขาว่าเป็นต่างด้าวและกล่าวหาว่าเมา ฉันจึงทนไม่ได้พยายามเข้าไปช่วยพูดเรียกร้องค่ารักษา ก็ถูก น.ส.พัทธนันท์ ด่าว่า “มา เ-...ือกอะไรด้วย แล้วมึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร กูเป็นหลานจุมพล” ฉันจึงบอกว่าแฟนฉันก็เป็นตำรวจเหมือนกัน แต่เห็นคนทำไม่ถูกก็ทนไม่ได้ น.ส.พัทธนันท์ ก็ข่มขู่ว่าแล้วจะทำไม แฟนอยู่ที่ไหน อยากถูกย้ายภายใน 24 ชั่วโมงไหม ทั้งยังเข้ามาผลักไหล่แล้วกระชากเสื้อฉัน ชาวบ้านจึงเข้ามารุมต่อว่า น.ส.พัทธนันท์ จึงบอกว่าจะไปแจ้งความที่ สน.บางกอกน้อย ฉันและชาวบ้านจึงตามมา” น.ส.สินีรินทร์ กล่าว
น.ส.สินีรินทร์ กล่าวว่า เมื่อมาถึงที่ สน.บางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไกล่เกลี่ยให้ยุติทั้งสองฝ่ายเนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีเล็กน้อย แต่ตนได้ยินนางอุษาพูดดูถูกตนและชาวบ้านกับลูกสาวก่อนกลับว่า “กลับเถอะอย่าไปยุ่งกับพวกนี้เลย มันคนชั้นต่ำ” ตนจึงทนไม่ได้ และเกรงว่าสามีจะถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมจึงแจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นหลักฐาน
