พยานระบุคนร้ายยิง “สุนัทที” คล้ายแขก

ผกก.สน.อุดมสุข ลงพื้นที่ตรวจจุดลอบยิง “สุนัทที” อย่างละเอียดอีกครั้ง ยังคงมุ่งประเด็นขัดแย้งธุรกิจครอบครัว หลังสอบพยานรายใหม่ที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มหลายปาก ระบุรูปพรรณสัณฐานลักษณะคล้ายแขก ใช้ จยย.ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินก่อเหตุ

วันนี้ (3 ธ.ค.) พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.อุดมสุข พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 11 แขวงและเขตประเวศ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลงมือสังหาร นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจไฮโซ อย่างละเอียดอีกครั้ง

พ.ต.อ.สรรค์หกิจ กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำปากสอบปากคำพยานไปแล้วประมาณ 3-4 ปาก ซึ่งพยานทั้งหมดได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบว่า มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์รายใหม่ ชุดพนักงานสอบสวนจึงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง รวมทั้งทำการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย

พ.ต.อ.สรรค์หกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามที่ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ส่วนแนวทางการสืบสวนนั้นไม่ได้มุ่งน้ำหนักในประเด็นใดเป็นพิเศษ และยังคงไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง แต่ในส่วนของรายละเอียดในคดีนั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้าน พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำพยาน และได้ทำการสเกตช์ภาพคนร้ายแล้ว ซึ่งรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายมีลักษณะคล้ายกับแขก ในส่วนของคดีความมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังคงมุ่งประเด็นความขัดแย้งเรื่องธุรกิจของครอบครัว และแบ่งงานไปตามส่วนของผู้รับผิดชอบในคดีนี้ตามที่ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพยานผู้เห็นเหตุการณ์รายใหม่มีจำนวนพอสมควร และค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งพอจะเห็นรูปร่างหน้าตาของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำ รวมทั้งเรียกพยานไปทำการสเกตช์ภาพของคนร้ายเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ยานพาหนะที่คนร้ายใช้เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน สภาพเก่า จึงอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายไม่น่าจะพักอาศัยอยู่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก โดยอาจจะเช่าบ้านหรือพักอยู่ในรัศมีไม่เกิน 1 กม.จากที่เกิดเหตุ เพราะสภาพรถจักรยานยนต์ไม่เหมาะต่อการใช้ในเส้นทางระยะไกล