xs
xsm
sm
md
lg

ญาติ นศ.เทคนิคกรุงเทพ รู้ตัวคนร้ายมือลั่นไกแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ญาติเดินทางไปรับศพนักศึกษาเทคนิคกรุงเทพ ที่ถูกยิงเสียชีวิตแล้วด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ตำรวจรอรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาเบาะแสคนร้าย แต่บรรดาญาติและเพื่อนผู้ตายระบุ รู้ตัวคนร้ายแล้ว

วันนี้ 27 พ.ย.เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นายโสภณ นาคเป้า อายุ 30 ปี น้าชาย พร้อมญาติ และเพื่อนร่วมชั้นของ นายรณฤทธิ์ วิเวโก อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ คณะวิทยาศาสตร์ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต จำนวน 2 คน เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านไนน์สกรีน ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (26 พ.ย.) เดินทางไปรับศพผู้ตายที่ รพ.จุฬาฯ โดยญาติของผู้ตาย ยังมีอาการเศร้าโศกเสียใจ และทำใจไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายโสภณ กล่าวยืนยันว่า หลานชายเป็นเด็กที่นิสัยเรียบร้อย น่ารัก ไม่น่าจะไปมีเรื่องกับใครได้ เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการยิงผิดตัว โดยกลุ่มนักศึกษาที่เป็นคู่อริ หรือเป็นคู่อริ กับอีกสถาบันหนึ่ง เนื่องจากหลานและกลุ่มเพื่อนๆ ไปรับเสื้อย่านปทุมวัน สำหรับแม่และพ่อของผู้ตายนั้นยังอยู่ในอาการเสียใจ โดยเฉพาะแม่ของผู้ตายนั้น ก่อนเสียชีวิตก็ยังพูดคุยกันทางโทรศัพท์กันอยู่ ไม่มีเหตุการณ์อะไรเตือนล่วงหน้า และเดือนมีนาคมนี้ ผู้ตายก็จะบวช ที่วัดปากน้ำฝั่งใต้ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 13 เพื่อทดแทนบุญคุณให้พ่อแม่ด้วย เขาจึงยังทำใจไม่ได้ ส่วนพ่อซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร อ.แม่เสลียง จ.แม่ฮ่องสอน กำลังเดินทางมา คาดว่า จะถึงเย็นวันนี้ ส่วนทางสถาบันก็คุยกันตลอด ล่าสุด เห็นว่า ทางคณะอาจารย์จะหามาตรการรักษาความปลอดภัยให้นักศึกษาด้วย

นายโสภณ กล่าวอีกว่า ได้ยินจากข่าวว่า มีเพื่อนของผู้ตายสามารถจำหมายเลขทะเบียนรถจยย.ของคนยิงได้ แต่เรืองนี้ ทางครอบครัว ญาติๆ ก็ยังไม่คาดหวังว่า จะจับคนร้ายได้ เพราะมีหลายครั้งที่เคยเกิดเหตุนักศึกษาเสียชีวิตจากการถูกยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะออกมาบอกว่า ใกล้จะได้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่เคยจับคนร้ายได้เลย

ด้าน นางจีระพันธ์ โพธิ์ภักดิ์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ นายนภัค ลือชาติเมทีกุล อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สถาบันเดียวกัน ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำและติดต่อขอเอกสารเพื่อนำไปรับศพลูกชายที่ รพ.จุฬาฯ พร้อมกล่าวเปิดเผยว่า ตนมีลูกชาย 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนโต ปกติผู้ตายจะพักอยู่หอ จนกระทั่งขึ้นชั้นปีที่ 4 จึงกลับมาอยู่บ้าน ปกติถ้าผู้ตายไปไหนก็จะโทร.หาตนตลอด โดยวานนี้คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ผู้ตายบอกตนว่าจะพารุ่นน้องไปเอาเสื้อ และยังถามตนว่าอยากกินอาหารญี่ปุ่นไหมขากลับจะซื้อไปฝาก กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ผู้ตายก้ยังไม่กลับมา ตนจึงโทร.ไปหา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเริ่มกังวล

“จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.ก็มีตำรวจโทร.มาบอกตนว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ปกติผู้ตายเป็นเด็กดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกับใครเลย ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ดิฉันรู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้ตายเพิ่งจะไปถ่ายรูปเตรียมรับปริญญา โดยผู้ตายตั้งความหวังไว้ว่าหลังเรียนจบจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ฉันไม่อยากพูดอะไรมาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่อยากฝากถึงคนก่อเหตุเพียงแค่ว่าใครทำอย่างไร ก็จะได้อย่างนั้น และหากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวเขาบ้างจะรู้สึกเช่นไร ส่วนศพของลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุลที่ วัดสลุต ย่านถนนบางนา-ตราด เพื่อทำพิธีตามศาสนาต่อไป” นางจีระพันธ์ กล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันเดียวกัน พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ฉันทวิชย์ รามสูต ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราช ประมาณ 5 นาย เข้าร่วมประชุมสรุปความคืบหน้ากรณีดังกล่าวที่ห้องประชุมชั้น 2 สน.ปทุมวัน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นหลังรับรายงานเหตุ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ วันนี้ได้ส่งตนเข้าร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี หลังจากนี้ จะต้องดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ส่วนคนร้ายจะเป็นนักศึกษาคู่อริต่างสถาบันหรือไม่ ต้องรอผลการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจึงจะสามารถสรุปได้ จากนี้จะได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจารย์ของแต่ละสถาบันที่มีนักศึกษามีปัญหากัน ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการสั่งปิดสถาบันหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งในเรื่องนี้ ต้องรอพิจารณาเหตุผลหลายๆ ด้าน ที่ผ่านมาก็มีการเฝ้าระวังและเข้มงวดกับสถาบันที่มีความขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตามขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจทำงานสักระยะ เพื่อคลี่คลายคดีและจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นางพิชาภรณ์ วิเวโก อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของ นายรณฤทธิ์ วิเวโก อายุ 19 ปี นักศึกษาสถาบันเดียวกัน พร้อมญาติๆ และเพื่อนร่วมสถาบันกว่า 10 คน เดินทางมารับศพ นายรณฤทธิ์ ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า เสียใจเป็นอย่างมาก ด้าน นางพิชาภรณ์ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นหลานของตน มีชื่อเล่นว่า บอส ที่ตนเดินทางมารับศพในวันนี้ เนื่องจากแม่ผู้ตายยังอยู่ในอาการช็อก และทำใจไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้แม่ผู้ตายจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดปากน้ำฝั่งใต้ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้ ผู้ตายยังโทร.คุยกับแม่ว่าจะเอาเสื้อไปสกรีน เพื่อใช้ในงานกีฬาสีพรุ่งนี้ จนะทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ก็มีตำรวจโทร.มาบอกแม่ผู้ตายว่า ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

“สำหรับผู้ตายตั้งใจจะบวชให้แม่ประมาณเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยเมื่อผู้ตายรู้ว่าจะบวช จึงได้พูดคุยกับเพื่อน จะทำตัวดีๆ เพราะใกล้บวชแล้ว ซึ่งปกติผู้ตายก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครอยู่แล้ว จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าถูกยิงเพราะสาเหตุใด ซึ่งใจตนก็อยากให้ตำรวจเร่งรัดคดีจับกุมคนร้ายให้ได้ไวๆ แต่ก็คาดว่าไม่น่าจะจับตัวได้ถึงแม้จะรู้ตัว รู้สถาบัน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นจับคนร้ายได้ซักที ถึงแม้จะจับมาแล้วคนที่ตายก็ไม่มีทางฟื้นมาอย่างแน่นอน” นางพิชาภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน คือ นายรณฤทธิ์ วิเวโก อายุ 19 ปี และ นายนภัค ลือชาติเมทีกุล อายุ 22 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน และยังรักษาตัวอยุ่ขณะนี้ โชคดีกระสุนไม่ถูกเข้าที่สำคัญ คือ นายอุกฤษ ชาและกุล ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังสมอง รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตากสิน ส่วน นายอรรถพล ชิณวงศ์ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอย แต่ไม่ถูกจุดสำคัญ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งสามารถพูดโต้ตอบได้บ้าง แต่ยังให้การอะไรไม่ได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการซึมเศร้าเสียใจกับการเสียชีวิตของเพื่อน ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องระหว่างสถาบัน เป็นเรื่องไร้สาระ น่าจะเป็นเรื่องของวัยรุ่นคึกคะนองมากกว่า

ทางด้าน นายอัคคณัฐ วิเวโก พี่ชาย นายรณฤทธิ์ วิเวโก กล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนของน้องชายพอทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร เนื่องจากมีพยานเล่าให้ฟังว่า หลังจากกลุ่มผู้ตายมาที่ร้านแล้ว ก็มี รถ จยย.ขับมาวนดูที่หน้าร้านประมาณ 2-3 รอบ เมื่อกลุ่มคนตายเห็นจึงเข้าไปหลบในร้าน หลังจากนั้น คนร้ายซึ่งสวมเสื้อวิน จยย.สีส้ม ติดหมายเลข 8 ไม่สวมหมวกนิรภัย มาจอดที่หน้าร้าน แล้วคนร้ายที่ซ้อนท้ายซึ่งสวมหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบสีแดง เดินลงมาจากรถแล้วเปิดประตูกราดยิงใส่กลุ่ม ก่อนหลบหนีไป
ญาติผู้ตายให้สัมภาษณ์สื่อ
ญาติถึงกับร่ำไห้เมื่อเห็นศพนายรณฤทธิ์  วิเวโก
กำลังโหลดความคิดเห็น