“ปทีป” ปัดตอบสื่อในรายละเอียดคดีฮั้วประมูลรถ จยย.สายตรวจของ สตช. วอนสื่อถามกองปราบฯ โดยตรง ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะเพิ่งเข้ามารักษาราชการแทน มองไม่ใช่การดิสเครดิตกระทบตั้ง ผบ.ตร.
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.กล่าวถึงการดำเนินคดีกลุ่มข้าราชการตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลรถจักรยานยนต์สายตรวจ ซึ่งล่าสุดทางกองปราบปรามได้แถลงข่าวความคืบหน้าว่ามีตำรวจระดับ “พล.ต.ท.ป” เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างว่า กองปราบปรามยังไม่ได้แจ้งอะไรมายังตน และตนไม่ได้เรียกกองปราบปรามมาพูดคุยในเรื่องนี้ หากพบว่ามีการเกี่ยวพันไปถึงระดับ พล.ต.ท.ก็สามารถออกหมายเรียกได้ หรือเชิญมาสอบปากคำได้ ถึงเป็นระดับผู้บังคับบัญชาก็ไม่มีปัญหา ซึ่งต้องให้ทางกองปราบปรามดำเนินคดีไปตามขั้นตอนการสอบสวน ส่วน พล.ต.ท.นั้นจะเป็นใครไม่อยากให้ไปคาดเดาอะไร รอให้เป็นไปตามผลการสอบสวนดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินคดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีฮั้วประมูล ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษของดีเอสไอได้ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ต้องดูข้อตกลงระหว่างตำรวจและดีเอสไอว่ามีข้อตกลงอะไรกัน และสามารถโอนไปได้หรือไม่
เมื่อถามว่ามีการพยายามทำให้คดีนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิดของท่าน และรวมไปถึงตัวท่านเอง เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีผลกระทบต่อการแต่งตั้ง ผบ.ตร.หรือต้องการดิสเครดิตของท่านเอง พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ไม่ได้เป็นห่วงเรื่องเก้าอี้ ผบ.ตร. เพราะเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แต่งตั้ง ส่วนการดิสเครดิตคงเป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปในลักษณะไหนไม่มีปัญหา เป็นการดำเนินคดีตามปกติ
ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างรถจักรยานยนต์สายตรวจนั้นมีการทุจริตจริงหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะจบไปตั้งแต่ปี 2550 สมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นผบ.ตร. ส่วนตนมารักษาราชการแทนเดือน ธ.ค.ปี 2551 และทำไมต้องมีการตรวจค้นหาหลักฐานต่างๆ ในช่วงนี้ ซึ่งอยากให้ไปถามทางกองปราบปราม ตนเองก็ยังไม่รู้ เพราะยังไม่ได้เรียกทางพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามมาพูดคุย ยังตอบไม่ได้
