เหยื่อแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบท้วงหนี้โหดเรียงหน้าร้อง ปคบ.แจ้งจับนายทุนกับพวกที่ไล่บี้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ดอกสูงร้อยละ 100 ไม่จ่ายเจอขู่อุ้มลูกสาวขายซ่อง ตัดแขนขาสามีเอาน้ำเกลือหยอด
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบที่ถูกนายทุนกับพวกข่มขู่และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดรวม 5 ราย ได้เข้าพบ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ
นางจิตต์กุศล กุมภัณฑ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.อุดรธานี กล่าวว่า มีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้านในย่านบางเขน กทม. โดยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้กู้เงินเป็นจำนวน 10,000 บาท จากนายทุนเงินกู้รายหนึ่ง ซึ่งรู้จักผ่านเพื่อนที่เคยไปกู้เงินมาแล้ว เนื่องจากต้องการนำเงินมาใช้ในการศึกษาให้บุตรสาว ซึ่งเรียนอยู่ระดับ ปวช. โดยจะต้องใช้คืนแบบรายวันๆ ละ 250 บาท รวม 24 วัน
นางจิตต์กุศลกล่าวต่อไปว่า สำหรับเงินที่จะต้องส่งคืนทุกวันนั้นจะมีนายสม และนายหลง ไม่ทราบชื่อสกุล เป็นผู้มาเก็บจากตนในช่วงเย็นของแต่ละวัน ซึ่งตนหาเงินมาใช้หนี้เงินกู้ได้ไม่เคยขาดส่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา การค้าขายไม่มีกำไรจึงหมุนเงินไม่ทันไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้รายวัน จึงขอผลัดผ่อนกับนายสม และนายหลง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมกับบังคับให้ตนหาเงินมาใช้คืนให้ได้หากไม่หาเงินมาคืนจะคิดค่าปรับเพิ่มแต่ไม่ได้บอกว่าคิดค่าปรับอีกเท่าไหร่ ตนจนปัญญาจึงหลบหนีเวลาที่เขามาทวงหนี้
“เวลาเขามาทวงเงิน บุตรสาวฉัน 2 คน และบุตรชายซึ่งอยู่ในบ้านก็ถูกเขาข่มขู่ต่างๆ นานา นอกจากนี้ยังฝากบุตรสาวฉันให้มาบอกว่า ถ้าคิดหนีก็หนีให้พ้น ไม่เช่นนั้นก็ให้ระวังตัวไว้ให้ดี บางครั้งยังท้าให้ไปแจ้งตำรวจ เขาไม่กลัวเพราะลูกพี่เขาใหญ่ ทำให้ฉันรู้สึกกลัวว่าเขาจะทำอันตรายฉันและคนในครอบครัว จึงเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ปคบ.เพื่อขอให้ตำรวจช่วยเหลือดังกล่าว”
ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ตกเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบซึ่งถูกข่มขู่ในลักษณะเดียวกันหลังจากไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้เงินกู้ได้ โดยในรายของ นางอุไร เต็มบาง อายุ 39 ปี แม่ค้าข้าวมันไก่ ในซอยสุขุมวิท 3 ได้กู้เงินจากนายทุนเงินกู้หลายแห่งที่มีคนนำใบปลิว หรือนามบัตรมาแจก โดยมาทำสัญญาและถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานถึงที่บ้าน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท ต้องใช้หนี้วันละ 1,000 บาท ไม่นับรวมเงินต้น ต่อมาระยะหลังค้าขายไม่ดีหาเงินมาใช้ไม่ได้จึงผลัดผ่อนขอลดเงินรายวัน จนในที่สุดไม่มีเงินจ่ายให้ จึงถูกลูกน้องนายทุนเงินกู้ที่มาเก็บเงินขู่ว่าจะอุ้มลูกสาวไปขายซ่อง หรือตัดแขนขาสามีเอาน้ำเกลือหยอด
อีกรายเป็นแม่ค้าผลไม้ตามฤดูกาลย่านรามคำแหง 39 กู้เงินนอกระบบมาจากนายทุนเงินกู้หลายแห่ง รวมเป็นเงิน 23,000 บาท แต่สุดท้ายไม่มีเงินใช้หนี้ จึงถูกขู่ว่าจะเผาบ้านจนต้องหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนพอตกดึกจึงกลับเข้าบ้าน ทั้งนี้เมื่อไปแจ้งความที่สถานที่ตำรวจท้องที่ตำรวจก็ไม่รับแจ้ง หนำซ้ำยังบอกว่ากฎหมายไม่ได้ช่วยคนดีทั้งหมด
ขณะที่ พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวว่า ในวันนี้มีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเงินกู้นอกระบบมาแจ้งความทั้งหมด 5 ราย โดยทั้งหมดถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 100 หรือร้อยละร้อยยี่สิบ รวมทั้งยังถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์ และทำร้ายในรูปแบบต่างๆ จึงให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
