xs
xsm
sm
md
lg

มท.ผนึกคลังแก้หนี้นอกระบบ ปคม.เปิดศูนย์ทวงหนี้โหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มหาดไทยประกาศร่วมมือคลังสานฝันโครงการแก้หนี้นอกระบบ ใช้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนกลางเจรจา "เจ้าหนี้-ลูกหนี้" ในพื้นที่ อธิบดีกรมการปกครองเผยข้อมูล ณ ปี 49 เจ้าหนี้ลูกหนี้มี 1.7 ล้านคน ด้าน ปคม.เปิดศูนย์ทวงหนี้โหด

ที่กระทรวงมหาดไทย วานนี้ (5 พ.ย.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยนายชวรัตน์กล่าวในระหว่างการหารือว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมสนับสนุนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมาในอดีตเคยมีการสำรวจข้อมูลเอาไว้ ดังนั้นจะมีการดำเนินการรื้อฟื้นข้อมูลขึ้นมาอีกครั้ง คิดว่า น่าจะมีข้อยุติหนี้นอกระบบได้ โดยเฉพาะในส่วนของลูกหนี้ หากมีความตั้งใจ และความสามารถในการชำระหนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีตรงนี้ทุกฝ่ายต้องไปช่วยกันคิดจะทำอย่างไรให้ลูกหนี้สามารถทำ 2 สิ่งนี้ได้ ในเบื้องต้นกระทรวงมหาดไทยจะมีการตั้งโต๊ะเจรจาประนอมหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนหลักในการเข้าไปดำเนินงาน

ด้านนายกรณ์รู้สึกยินดีที่ได้ทำงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบกับกระทรวงมหาดไทย โดยระบุว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาคงไม่สำเร็จ ขั้นตอนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนั้น คือระบบของการตั้งโต๊ะเจรจาชำระหรือประนอมหนี้ ซึ่งต้องอาศัยมือไม้ของกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก

อย่างไรก็ตามโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเปิดตัวในวันที่ 19 พ.ย.นี้ และจะเปิดให้ลูกหนี้นอกระบบลงทะเบียนในเดือนธันวาคม ขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังกับกระทรวงมหาดไทยจะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหา เพียงแต่ต้องขอให้ทางกระทรวงมหาดไทยต้องไปรื้อโครงสร้างลูกหนี้ เจ้าหนี้ในอดีตถึงปัจจุบันที่เคยทำเอาไว้แล้วจัดทำเอกสารข้อมูลเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่อไป

ภายหลังการหารือร่วมกันแล้ว รัฐมนตรีทั่้งสองกระทวงได้ร่วมกันแถลงว่า กระทรวงการคลังได้ประสานกับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ธนาคารออมสิน เพื่อจะดูวงเงินกู้เพื่อมาทดแทนเงินกู้นอกระบบ โดยประชาชน จะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นการแปลงหนี้นอกระบบในปัจจุบันมาเป็นหนี้ในระบบ โดยกลไกทั้งหมดจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการชุดใหญ่

ส่วนบทบาทที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ของกระทรวงมหาดไทยในระดับท้องถิ่นนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับอาสา โดยการจัดตั้งโต๊ะเจรจาระหว่าง เจ้าหนี้กับลูกหนี้ มีธนาคารของรัฐเข้ามานำเสนอแนวทางในการชำระหนี้ ซึ่งขั้นตอนของกระทรวงมหาดไทยถือว่า มีประสบการณ์ในการเจรจาแก้ไขหนี้สืบเนื่องจาก การขึ้นทะเบียนคนจนเมื่อปีพ.ศ.2546

"ประสบการณ์ความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นบุคลากรที่สำคัญในการเจรจาเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล แต่ก็ยอมรับว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต้องเจอปัญหาแน่นอน เพราะเป็นเรื่องใหญ่และยาก แต่เป็นความต้องการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาให้ประชาชน"

รมว.คลังกล่าวอีกว่า ได้เปิดช่องทางการลงทะเบียนโดยตรงกับสถาบันการเงินเพื่อสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ส่วนปัญหาข้อมูล อาจมีการคลาดเคลื่อนและการขึ้นทะเบียนเทียม ดังนั้นทางรัฐบาลก็ต้องรับฟัง ขณะเดียวกันสถาบันการเงินต้องใช้ความระมัดระวัง โดยผู้บริหารระดับท้องถิ่นต้องช่วยตรวจสอบด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการจัดเตรียมงบเพื่อทดแทนเงินกู้หนี้นอกระบบจำนวน เท่าไหร่ นายกรณ์ กล่าวว่า เราพร้อมที่จะรีไฟแนนซ์ โดยตั้งเพดานหนี้ไว้ที่ 2 แสนบาทต่อ 1 ราย ในขณะที่คาดว่า จะมีประชาชนขึ้นทะเบียนประมาณ 1 ล้านราย ยึดหลัก 2 เงื่อนไข ที่ลูกหนี้ต้องมีความตั้งใจ และความสามารถชำระหนี้ได้ ขณะเดียวกันเรื่องนี้ยืนยันว่า วงเงินของธนาคารมีเพียงพอในการดำเนินโครงการ

นายชวรัตน์กล่าวเสริมว่า กระทรวงการคลังมี Know How ว่าจะหาเงินมารีไฟแนนซ์ได้อย่างไร ส่วนกระทรวงมหาดไทยมี Know How เช่นกัน รู้ว่า ใครเป็นใคร จึงจะทำให้ทั้ง 2 กระทรวงจับมือร่วมกันแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้สำเร็จ

นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ปัจจุบัน แม้ว่า จะมีการโยกย้ายข้าราชการไปบ้างแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไรในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะกรมการปกครองมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ช่วยทำงานมั่นใจว่า การดำเนินงานจะทำได้สำเร็จ เนื่องจากในช่วงปี 2546 เคยมีการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีข้อมูลบางส่วนที่ปรากฏว่า ได้แก้ไขไปแล้วจนถึงปี 2549 ตัวเลขคู่กรณีที่เป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้มีอยู่ประมาณ 1 ล้าน 7 แสนคน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบครั้งใหม่ คิดว่า การกำหนดระยะเวลาดำเนินการเป็นเรื่องที่สำคัญ สิ่งที่อยากเสนอให้มีการปรับปรุงจะเป็นคณะกรรมการที่มีอยู่ในส่วนกลาง สำหรับคณะกรรมการในระดับหมู่บ้านที่มีอยู่ 2,000 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อให้เขาสามารถทำงาน บรรลุผลไปได้ ขอมีการจัดทีมและงบประมาณ 27 ล้านบาท เอาไว้เพื่อเป็นค่าอาหาร โดยควรกำหนดเวลาเอาไว้ในการตั้งโต๊ะเจรจา 10 วัน เชื่อว่างานจะสามารถสำเร็จตามเป้าหมาย.

**ปคม.เปิดศูนย์ทวงหนี้โหด**

วันเดียวกันที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.เป็นประธานเปิด “ศูนย์ปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบ” โดยมี พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ.ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปการจัดตั้งศูนย์ฯ พร้อมกันนั้นผู้แทนจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) และกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ได้เข้าร่วมประชุมรับมอบแนวนโยบายการปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบจาก ผบช.ก.

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นความคิดริเริ่มจาก พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ก.โดยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเงินกู้นอกระบบทั้งหมดจะถูกรวบรวมมาที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ เพื่อดำเนินการปราบปรามให้ได้ทั้งขบวนการและเป็นระบบ โดยมี บก.ปคบ.เป็นเจ้าภาพหลักในการปฏิบัติเพื่อสืบสวนปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบ ส่วนผู้เสียหายสามารถแจ้งเหตุหรือร้องทุกข์โดยตรงได้ที่ บก.ปคบ. หรือผ่านทางตู้ ปณ.459 ปณศ.สามเสนใน เขตพญาไท กทม.10400 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 0-2513-0051-3
กำลังโหลดความคิดเห็น