xs
xsm
sm
md
lg

“รองแดง” งัดหลักฐานสู้ยิบตายันบริสุทธิ์ ถูกตู่อุ้มไถ 10 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“รองแดง” รวบรวมเทปบันทึกภาพ-เสียงจากสื่อมวลชน เป็นหลักฐานสู้ทางกฎหมาย เหตุถูกกล่าวหากรรโชก 10 ล้าน ใช้หนี้พนันบ่อนจากสาวใหญ่เจ้าของธุรกิจสปาย่านรามอินทรา ยันบริสุทธิ์ เรื่องที่ผู้เสียหายแจ้งความไม่เป็นความจริง

จากกรณีที่ นางวรางค์รัตน์ สืบนพรัตน์ อายุ 41 ปี เจ้าของธุรกิจสปาย่านรามอินทรา อยู่บ้านเลขที่ 580/79 ถนนลาดพร้าว ซอย 36 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ให้ชดใช้หนี้สินจากการพนันจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับนายทุนบ่อนการพนันแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 101 โดยบังคับให้ยินยอมโอนบ้านพร้อมที่ดินมูลค่า 14 ล้านบาท เพื่อชดใช้หนี้สินดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยว่า เบื้องต้น พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.บก.น.1 หรือ “รองแดง” ที่ผู้เสียหายกล่าวถึงนั้น กำลังรวบรวมหลักฐานซึ่งเป็นเทปที่บันทึกภาพและเสียงจากสื่อมวลชน และพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้ตามกฎหมายและฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากสิ่งที่ผู้เสียหายแจ้งความว่าถูกตำรวจสืบ 1 ชื่อรองแดงข่มขู่รีดไถเงินให้ใช้หนี้นั้นไม่เป็นความจริง

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับนางวรางค์รัตน์ ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความเป็นภรรยาของนายกำธร ดาวเงิน ผู้ต้องหาคดีสำคัญ โดยในวันเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ 1 ไปจับกุมผู้นายกำธรที่ย่านลาดพร้าวนั้น พบว่านายกำธรและนางวรางค์รัตน์กำลังเล่นการพนันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายกำธรและผู้ต้องหาอีก 1 รายในคดีอาวุธปืนมาสอบปากคำที่ บก.น.1 และเตรียมที่จะแถลงข่าว ซึ่งนางวรางค์รัตน์ก็ได้ตามมาด้วย แต่ระหว่างนั้นเจ้าหนี้ของนางวรางค์รัตน์ได้เดินทางมาที่ บก.น.1 เพื่อมาทวงหนี้สินจำนวนหนึ่ง ตนพร้อมด้วยรองแดงได้เดินทางมาถึง บก.น.1 พอดี ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน รองแดงจึงเข้าไปสอบถาม ซึ่งในวันนั้นก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร และตำรวจทั้งหมดรวมถึงรองแดงก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินของนางวรางค์รัตน์ เพียงแค่จะแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญเท่านั้น

“ที่บอกว่าตำรวจจะได้ส่วนแบ่ง 30% จากการบังคับเอาหนี้เงินกู้ หรือให้เซ็นเช็คแลกกับการปล่อยตัวนายกำธรนั้น ไม่มีมูลความจริง ผมพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 ได้รับการประสานจากทางศาลจังหวัดเชียงใหม่ให้รีบส่งตัวผู้ต้องหากลับ ทำให้ต้องรีบส่งตัวกลับไป และที่สำคัญเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้เสียหายจึงเพิ่งจะมาแจ้งความ จากการตรวจสอบประวัติของนางวรางค์รัตน์ พบว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ผมไม่ขอเอ่ยถึง อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ศุภกฤช อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อสู้ไปตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.บก.น.3 ช่วยราชการ กก.ส.บก.น.1 ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 02.35 น. ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับกุมนายอำนาจ ศักดิ์แสง อายุ 34 ปี และนายปพน หรือกำธร ภายหลังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจึงนำตัวมาที่ บก.น.1 เพื่อแจ้งข้อหามีและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อตรวจสอบพบว่านายปพน มีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่น ที่ศาล จ.เชียงใหม่ โดยได้ยื่นประกันตัวและไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์หลังจากศาลตัดสินให้มีความผิดจริง และกำลังอยู่ระหว่างจะทำการแถลงข่าว นางวรางรัตน์ แฟนของผู้ต้องหาได้ร้องขอตำรวจให้ติดตามตัวมาด้วย จากนั้นตนพร้อม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้มาร่วมตรวจสอบ แต่ก็ไม่ได้แถลงข่าวเพราะต่อมามีเจ้าหนี้ของนางวรางรัตน์ ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหนตามมาทวงเงิน และเกิดการทะเลาะกันขึ้น จากนั้นก็มีข่าวว่าตนมีส่วนรู้เห็นให้เจ้าหนี้มาตามทวงเงินกับนางวรางรัตน์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ได้อย่างไรเพราะไม่มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ศุภกฤชกล่าวอีกว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ จะไปแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับนางวรางรัตน์ โดยกำลังพิจารณาอยู่วาจะไปแจ้งความที่ใด ตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นส่วนได้เสียกับเรื่องดังกล่าว และยังไม่ได้ไปร่วมจับด้วย นอกจากแจ้งความเรื่องหมิ่นแล้ว จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งด้วย


รอง “ลาวแดง” ยันบริสุทธิ์ ไม่เคยรีดไถผู้ต้องหา!
เจ้าของสปาร้องถูก ตร.สืบ 1 อุ้มรีดใช้หนี้บ่อน 10 ล้าน
พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รองผกก.สส.บก.น.1 หรือ รองแดง
ภาพในวันที่นางวรางค์รัตน์ สืบนพรัตน์ เจ้าของธุรกิจสปาย่านรามอินทรา เข้าแจ้งความกองปราบฯ ถูกรีดไถเงิน 10 ล้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น