xs
xsm
sm
md
lg

รวบสิบแปดมงกุฎสาว หนีหมายจับศาลคดีต้มตุ๋น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โฉมหน้า นางวรรณวนัช บุทฤทธิ์ 18 มงกุฎสาว
ตำรวจกองปราบฯ ตามจับกุมสิบแปดมงกุฎสาว หนีหมายจับฟังคำพิพากษาศาลแขวงขอนแก่น พฤติการณ์แสบอ้างสามีนักบินอเมริกันเสียชีวิต ทิ้งมรดกให้ 200 ล้านบาท แต่ไม่มีค่าธรรมเนียมไปรับเงินจากธนาคาร ลวงเหยื่อให้สมทบทุนช่วยเหลือแล้วตอบแทนอย่างงามก่อนเชิดเงินหนี

วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐกรณ์ ประภายนต์ รอง ผกก.1บก.ป.และ พ.ต.ต.พุทธพงศ์ เมฆเอี่ยมนภา สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นางวรรณวนัช บุทฤทธิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 3 ต.ฟ้าห่วน อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงขอนแก่น เลขที่ 532/2552 วันที่ 2 ต.ค.52 ในข้อหา ฉ้อโกง ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 99/13-14 หมู่บ้านวิวัฒน์โอม ต.เมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้จับกุมตัวนางวรรณวนัชในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง นำส่ง สภ.เมืองขอนแก่น ท้องที่เกิดเหตุสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวชั่วคราวและได้แล้วหลบหนีประกัน ไม่เข้าฟังคำพิพากษาของศาลแขวงขอนแก่น ศาลจึงได้ออกหมายจับดังกล่าว

สำหรับพฤติการณ์ของนางวรรณวนัช ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน เป็นหญิง 1 คน กับชาย 1 คน แสดงตัวเป็นคนทรงเจ้า อยู่ตามศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงแล้วหลอกลวงต้มตุ๋น เอาเงินกับคนที่เพิ่งรู้จัก ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี โดยเฉพาะ ที่ขอนแก่นทำมาทั้งหมด 8 ครั้ง โดยนางวรรณวนัชจะออกอุบายหลอกลวงว่ามีสามีเป็นนักบินชาวอเมริกัน แต่สามีเสียชีวิต ทำให้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 200 ล้านบาท ที่อยู่ในตู้เซฟฝากไว้กับธนาคารไม่สามารถนำออกมาได้ และหากต้องการถอนเงินจะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเพื่อนำเงินออกมา จึงขอให้เหยื่อร่วมลงทุนและจะให้กำไรอย่างงาม เหยื่อหลายรายหลงเชื่อนำเงินมาให้เมื่อได้เงินแล้วผู้ต้องหาหลบหนี

โดยผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น ว่าให้นางวรรณวนัชยืมเงิน รวมทั้งสิ้น 320,000 บาท โดยบอกว่าถ้าได้เงินของสามีแล้วจะนำเงินมาคืนให้ 1 ล้านบาท แต่ ก็หายหน้าไป อีกรายผู้เสียหายให้ยืมรถยนต์ฮอนด้า ราคา 780,000 บาท โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะไปเอาเงินกับญาติที่อุบลราชธานี เพื่อจะนำไปจัดการเรื่องเงินของสามี ที่อยู่ในตู้เซฟฝากไว้ที่แบงก์ชาติ จากนั้นก็หายไปทั้งรถทั้งคน และจากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลสลับกันไปมารวมทั้งหมด 23 ครั้ง และเปลี่ยนแปลงใบหน้าของตัวเองอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น