xs
xsm
sm
md
lg

ฝากขัง “ราเกซ” คุมตัวเข้าคุก! เครียดไม่แตะมื้อเย็น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ฝากขัง “ราเกซ” หลังพนักงานสอบสวนค้านประกันตัว ขณะที่เจ้าตัวอยู่ในอาการอ่อนเพลีย สีหน้าอิดโรย ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แยกขังแดนพยาบาล เจ้าตัวเครียด ไม่แตะอาหารมื้อเย็น

วันนี้ (31 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10 ) พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. นำกำลังตำรวจคอมมานโด 50 นาย อาวุธครบมือ มารับตัว นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือบีบีซี ผู้ต้องหาร่วมยักยอกทรัพย์ บีบีซี เพื่อนำตัวไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนสาธร

ทั้งนี้ นายราเกซสวมสูทสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นชุดที่สวมตั้งแต่เมื่อวาน นั่งรถเข็นลงมาจากชั้น 2 กองปราบปราม ซึ่งเจ้าตัวมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด โดยมีเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดและแพทย์จาก รพ.ตำรวจคอยประคองตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวนายราเกซมาจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อมาควบคุมตัวที่กองปราบปราม จากนั้นได้พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูปและทำประวัติอาชญากร และสอบปากคำ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นผู้ต้องหาอ้างว่ามีอาการป่วยและขอไปรักษาตัว ซึ่งแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ทำการตรวจอาการ ผู้ต้องหาอย่างละเอียดแล้ว พบว่าอาการป่วยของนายราเกซ ไม่รุนแรงถึงขั้นต้องนำตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ

โดยตามกำหนดเดิมเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายราเกซไปควบคุมที่ห้องขังกองปราบปรามโดยเตรียมที่นอน เบาะและผ้าห่มไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากนายราเกซมีท่าทีอ่อนล้าหลังจากนั่งเครื่องบินมาจากประเทศแคนาดาเป็นเวลาหลายชั่วโมง จึงลำบากในการเคลื่อนย้าย จึงให้พักในห้องพักชั้น 2 กองปราบปราม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์จาก รพ.ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด และสั่งห้ามไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวบริเวณชั้นบนอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเรื่องคดีแต่ก็ได้รับการปฏิเสธบอกว่าพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการขอประกันตัวและจะเร่งสรุปสำนวนส่งให้อัยการภายในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ส่วนทางคดีไม่ขอเปิดเผยเกรงเสียรูปคดี

ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น.ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10 ) ในฐานะหัวหน้าชุดควบคุมดูแลการรับตัวนายราเกซ สักเสนา อายุ 57 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด(มหาชน) หรือบีบีซี. และ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช. พร้อมคณะได้นำนายราเกซ สักเสนา เดินทางออกจากกองปราบปราม มายังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยใช้รถพยาบาลของรพ.ตำรวจ เพื่อฝากขังต่อศาลเป็นผลัดแรก

โดย พ.ต.ท.สมชาย โพธิ์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สบ 2 กก.5 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังระบุว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 30 ต.ค.2552 พนักงานสอบสวนได้รับตัวนายราเกซที่หลบหนีการจับกุมไว้ตามคำสั่งสตช. ที่ 538/52 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับพฤติการณ์แห่งความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 2 มี.ค.2538 - 20 ก.ค.2538 นายราเกซซึ่งเป็นที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารบีบีซี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลครอบครองทรัพย์และจัดการทรัพย์กับดำเนินกิจการของธนาคารบีบีซี ได้ร่วมกับนายเกริกเกียรติ กระทำผิดโดยอนุมัติสินเชื่อเงินให้แก่บริษัทซิตี้เทรดดิ้งจำกัดเป็นเงิน1,657 ล้านบาทโดยไม่ผ่านคณะกรรมการสินเชื่อ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีนายเกริกเกียรติ เป็นผู้มีส่วนได้เสียอยู่ และไม่เคยตรวจสอบกลั่นกรองการขออนุมัติ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 307, 308, 309, 311, 313 , 314 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

บัดนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวจะครบ 48 ชั่วโมงแล้วแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ยังต้องสอบพยานอีก 2 ปาก และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. - 11 พ.ย. 2552 ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ เกรงว่าจะหลบหนี คดีมีสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

ต่อมานายราเกซถูกนำไปห้องพิจารณา โดยมีแพทย์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อนสนิท 3 คน โดยมีหน่วยคอมมานโดอารักขา ซึ่งศาลได้อ่านคำร้องฝากขังผ่านล่ามและสอบถามว่าจะคัดค้านการฝากขังหรือไม่ ซึ่งนายราเกซแถลงไม่คัดค้าน แต่แถลงว่า ตนมีอาการป่วยขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ศาลได้สอบถามแพทย์จาก รพ.ตำรวจ แล้วมีคำสั่งให้ฝากขัง 12 วัน ตามคำขอ และอนุญาตให้นำตัวนายราเกซไปรักษาที่ทัณฑสถาน รพ.กลางราชทัณฑ์ได้

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก สตช.กล่าวว่า เมื่อคืนนายราเกซอยู่ในความควบคุมของตำรวจและแพทย์ ซึ่งได้ตรวจสุขภาพ ถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ ผู้ต้องหามีอาการแจ่มใส ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ และพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว

ด้าน พล.ต.ต.นพ. อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แพทย์ผู้ตรวจอาการนายราเกซ กล่าวว่า นายราเกซชีพจรปกติ ความดันโลหิตปกติ รับประทานอาหารได้ และนอนหลับพักผ่อนนาน 3 ชั่วโมง ขอยืนยันว่า นายราเกซมีสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี และสามารถพักรักษาตัวที่ รพ.ของกรมราชทัณฑ์บริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพได้

ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยคอมมานโดได้ควบคุมตัวนายราเกซ ไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถ.งามวงศ์วาน โดยมีรถกองทัพนักข่าวตามมานับสิบคัน โดยใช้เส้นทางด่วนถนนจันทร์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะลงทางด่วนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าเข้าเรือนจำ

จากนั้นเวลา 10.30 น.นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังจากที่ทางตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงแบงค์บีบีซี ว่า นายราเกซผู้ต้องขังมีอาการป่วย จึงต้องแยกตัวนายราเกซออกจากผู้ต้องขังทั่วไปและจะจัดให้นายราเกซไปอยู่ในสถานพยาบาลที่ทางเรือนจำเตรียมเอาไว้ให้

ส่วนขั้นตอนต่างๆ ในการรับตัวผู้ต้องขังนั้นยังเป็นไปตามขั้นตอนปกติของผู้ต้องขังทั่วไป นอกจากนี้ทางเรือนจำมีความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยของนายราเกซเป็นอย่างมาก จึงต้องมีการเตรียมเจ้าหน้าที่ผู้คุมตามประกบนายราเกซขณะที่ถูกคุมขังอย่างใกล้ชิด

รักษาการ ผบ.เรือนจำฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งสำนวนฟ้องให้กับอัยการในวันจันทร์ ที่ 2 พ.ย.ที่จะถึงนี้ อาจไม่จำเป็นที่จะต้องมีการนำตัวนายราเกซไป เนื่องจากมีระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการสอบสวนผู้ต้องหาจากทางเรือนจำไปยังศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทนายความและญาติของนายราเกซ นำของใช้ส่วนตัว ผลไม้ และยาประจำตัว มาฝากเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไว้ให้นายราเกซ โดยมีรายงานว่า ภายหลังนายราเกซถูกส่งเข้าเรือนจำแล้ว ก็กิดอาการเครียด และมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ไม่ยอมพูดจา หรือกินอาหารเย็นที่ทางเรือนจำจัดไว้ให้ ดื่มเพียงน้ำเปล่า และกินผลไม้ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำให้ผู้ต้องขังที่พูดภาษาอังกฤษได้ และคดีผู้ต้องขังคดีเช็ค เข้ามาอยู่ร่วมกับนายราเกซ เพื่อสื่อสารและพูดคุย เป็นเพื่อน
สภาพ ราเกซ หลังถูกควบคุมตัวฝากขัง




กำลังโหลดความคิดเห็น