รันทด! สาวใหญ่โดนผัววิตถารเตะหูดับ-แท้งลูก เร่ขายไตหาเงินผ่ามะเร็ง

สาวใหญ่เมืองจันท์ สุดรันทดยืนเร่ขายไตย่านพลับพลาไชย หลังตรวจพบมะเร็งมดลูกไม่มีเงินรักษา เผยชีวิตอาภัพ โดนผัวบังคับเซ็กส์หมู่ ไม่ยอมก็โดนเตะจนแก้วหูแตก-แท้งลูก ฟ้องหย่าตามรังควาน หมดหนทางตัดใจเข้ากรุงร้อง “เจ๊เบียบ” ช่วย

วานนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายรุ่งเพชร ศรีสุวรรณ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ว่ามีหญิงวัยกลางคนยืนบนถนนเร่ขายไตบริเวณถนนพลับพลาไชย แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ใกล้กับ สน.พลับพลาไชย จึงรุดไปตรวจสอบก็พบนางปทุม เจียมจิรประเสริฐ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1-2 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ยืนร้องไห้อยู่หน้า สน.พลับพลาไชย จึงได้เข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นางปทุมเปิดเผยว่า ก่อนที่จะตกระกำลำบากถึงขั้นต้องขายไตแบบนี้นั้น ตนเคยเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่ จ.ตราด ส่วนสามีก็ทำงานธนาคาร และขายสินค้าตรงเป็นอาชีพเสริม ซึ่งพวกตนทั้งสองคนก็อยู่กินกันมานานหลายปีจนมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่อยู่มาวันหนึ่งตนมาจับได้ว่าสามีพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน แต่สามีกลับพูดชวนให้ตนเข้ามาร่วมเพศด้วยแบบเซ็กซ์หมู่ ตนไม่ยอมทำตามจึงถูกสามีทุบตีทุกวัน และยังไล่ตนออกจากบ้านอีกด้วย

“หลังจากนั้นเขาก็บังคับให้ฉันไปอำเภอเพื่อเซ็นใบหย่า แต่ฉันไม่ยอมหย่าให้เพราะสงสารลูกๆ อีกทั้งช่วงนั้นก็ท้องลูกคนที่ 4 มาได้ 3 เดือนแล้ว พอฉันไม่ยอมหย่าเลยถูกเขาเตะเข้าที่บ้องหูอย่างจัง จนแก้วหูซ้ายทะลุหนวกสนิท แขนขวาชาไม่มีแรง และต้องแท้งลูกอีกด้วย ฉันก็เลยพาลูกคนโตแยกออกไปอยู่ที่อื่น จนล่าสุดปลายปี 50 ทางเขาก็ทำเรื่องฟ้องศาลเพื่อหย่าขาด โดยที่ฉันไม่รู้เรื่องมาก่อน แถมเขายังโกหกศาลหน้าตาเฉยว่าฉันคบชู้สู่ชาย จนศาลมีคำสั่งให้หย่า และไม่ยอมแบ่งสินสมรสให้ด้วย ฉันก็ได้แต่ร้องไห้” นางปทุมกล่าว

นางปทุมกล่าวต่อว่า ระหว่างที่ศาลมีคำสั่งให้หย่าแล้วนั้น ตนก็ยังถูกตามระรานอีกจนต้องขายร้ายเสริมสวยทิ้ง แล้วย้ายมาเป็นลูกจ้างใน จ.จันทบุรี พร้อมกับส่งลูกสาวมาเรียนมหาวิทยาลัยใน กทม. ล่าสุดตนเกิดปวดท้องอย่างรุนแรงจึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งมดลูก เนื่องจากตอนแท้งลูกนั้น ตนไม่ได้ขูดมดลูกออกทำให้มีเนื้องอกที่มดลูกจนกลายเป็นมะเร็ง และจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการผ่าตัด ซึ่งตนไม่มีเงิน และคิดว่าหมดหนทางจะหาเงินมารักษาตัวแล้ว จึงตัดสินใจเดินทางเข้า กทม.เพื่อขายไตโดยที่ลูกสาวยังไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด เพราะกลัวว่าลูกจะอับอาย

นางปทุมกล่าวด้วยว่า เมื่อวานที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ซึ่งก็รับปากว่าจะช่วยฟ้องร้องเรื่องสินสมรสให้ แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงจนถึงขนาดกลั้นน้ำตาไม่ไหว จึงเดินทางไปโรงพยาบาลหัวเฉียวเพื่อจะขอขายไตให้ แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับ เพราะไม่มีนโยบายเรื่องนี้

“ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เลยตัดสินใจมาประกาศขายไตตัวเองให้กับคนที่ผ่านไปมาละแวกนี้ ส่วนราคานั้นฉันไม่ได้ตั้งเอาไว้ แล้วแต่จะมีผู้ใจบุญจะให้แล้วกัน พอยืนอยู่ได้สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาเจอเข้า แล้วก็ประสานนักข่าวมาช่วยเหลือ” นางปทุมกล่าว