นายแบบ “ต๋ง-บุราณ ชาน” ซิ่งเก๋งตกสะพาน คาดขับเร็วถึงทางขึ้นสะพานข้ามแยกเสียหลักควบคุมรถไม่ได้ เสยคอสะพานพลิกตกลงมาอยู่ที่ตอม่อสะพาน ส่วนอีกที่ชนกันรวด 4 คัน หน้าบริษัทบุญถาวร ย่านดินแดง ถนนรัชดาขาออก สาหัส 1 ราย
วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.อ.ตระการ ศักดิ์ศรีกรม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.วังทองหลาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ตกจากสะพานข้ามแยกลาดพร้าวขาออก ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถยนต์ 2 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กเต็ง
ที่เกิดเหตุบริเวณตอม่อใต้สะพานพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น MR-S สีขาว เปิดประทุน หมายเลขทะเบียน จษ 8699 กรุงเทพมหานคร สภาพหงายท้อง ด้านหน้าและด้านหลังรถพังยับ กันชนหน้าหลุดออกมา และมีน้ำมันไหลนองออกมาจากตัวรถ
ภายในรถมีเสียงร้องโอดครวญขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยกันดึงร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำร่างออกจากรถและนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสยาม ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาคือ นายบุราณ ชาน หรือต๋ง อายุ 20 ปี ดาราและนายแบบชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 284/16 ถนนพระรามที่3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. มีบาดแผลที่ใบหน้าและเนื้อตัวเปื้อนเลือด ส่วนอีกรายคือนายกิตติศักดิ์ วีงอ่อน อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า ผู้ขับขี่น่าจะขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงทางขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วเกิดเสียหลักควบคุมรถไม่ได้ ทำให้รถเสยกับคอสะพานด้านเลนขวา แล้วพลิกตกลงมาอยู่ที่ตอม่อสะพาน
ด้าน ร.ต.อ.ตระการ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายอาการไม่สาหัสมาก จะให้แพทย์ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ว่า มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายด้วยหรือไม่ หากมีและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆ ต้องรอสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายก่อน
สำหรับ “ต๋ง-บุราณ ชาน” มีผลงานถ่ายเอ็มวีเพลง “อิจฉา” เดินแบบ ถ่ายนิตยสาร และล่าสุดถ่ายโฆษณาแมคโดนัลชื่อ “รักใครให้กินปลา”
อีกราย วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.ท.สันติ ผิวทองคำ พงส.(สบ1) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุรถชนกันที่หน้าบริษัทบุญถาวร ถนนรัชดาภิเษกขาออก แขวงและเขตดินแดง กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็งตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานลอยหน้าบริษัทบุญถาวร เลนซ้ายสุด พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคาดีน่า สีขาว-เขียว ทะเบียน จ 2947 นนทบุรี ที่หน้ากระโปรงรถติดสติกเกอร์ TG-050 บนกระจกหน้ารถติดคำว่าสายตรวจ กันชนข้างซ้ายติดคำว่า ศปช.ตร. และด้านข้างรถติดคำว่า TIS GUARD สายตรวจ พร้อมโลโก้ของบริษัท สภาพรถหมุนกลับสวนทางที่รถจะวิ่ง ด้านท้ายสภาพพังยับเยินจนกันชนหลังกระเด็นหลุดออกมา
ส่วนด้านข้างรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจปราบจลาจล มีอาร์มและเครื่องหมายต่างๆ ติดอยู่ที่หน้าอก สวมเสื้อยืดด้านในสีขาวมีรอยเลือดหยดใส่เป็นจำนวนมาก นอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นถนน สภาพศีรษะด้านหลังแตกและมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาล จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันจับตัวไว้เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลสยาม
ทั้งนี้ ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของผู้ได้รับบาดเจ็บยังติดบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงาน ศปช.ตร.ทีส การ์ด ลาดพร้าว ชื่อ ส.ต.จักรี ปริวรรณา ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ เลขที่บัตร TIS 48051107 ด้านบนซ้ายของบัตรมีโลโก้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำว่า ศปช.ตร. ด้านขวาเป็นโลโก้ของบริษัท TIS GUARD ออกบัตรโดย นายพงศ์ ดวงทิพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ ศปช.ตร. ทีส การ์ด ลาดพร้าว และภายในรถยังพบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ของ ส.ต.จักรี ระบุชื่อ นายจักรี ปริวรรณา อายุ 20 ปี ในรูปสวมเครื่องแบบคล้ายนายทหารอีกด้วย
นอกจากนี้ ใกล้กันยังพบรถแท็กซี่โตโยต้า สีแดง ทะเบียน ทร 8017 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่เลนขวาชนติดอยู่กับเกาะกลางกันชนหน้าด้านขวา และกันชนหลังแตกเสียหายเล็กน้อย ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายไพศาล ชูหลี อายุ 39 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนฝั่งตรงข้ามด้านขาเข้า ใต้สะพานลอยคนข้าม ยังพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน พอ 5831 กรุงเทพมหานคร สภาพรถหมุนสวนทางที่รถจะวิ่ง มี นายอรุษ คิรินทร์ภาณุ อายุ 25 ปี ผู้ขับขี่ยืนเอามือกุมหัวไหล่ซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างรถ และใกล้กันยังพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน บต 2092 เพชรบูรณ์ สภาพด้านหน้าซ้ายยุบไฟเลี้ยวแตก และกันชนหลุด มี นายจักรพันธ์ ทองเกลียว อายุ 22 ปี คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บยืนอยู่ข้างรถ
จากการสอบถาม นายจักรพันธ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไปซื้อผลไม้จากตลาดสี่มุมเมืองเพื่อจะนำไปขายตอนเช้า และกำลังจะกลับบ้านที่อยู่ภายในซอยรัชดาภิเษก 20 ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 50 เมตร ขากลับขับรถมาเรื่อยๆ อยู่ๆ รถคัมรี่ของนายอรุษก็พุ่งข้ามเกาะกลางจากฝั่งขาออกมาชนรถตน
ด้านนายไพศาลเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถอยู่เลนขวา เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้มองกระจกข้างและกระจกหลังเห็นรถของ ส.ต.จักรี อยู่เลนซ้ายหลังรถตน ส่วนรถคัมรี่ของนายอรุษอยู่คันหลังสุด จากนั้นนายอรุษก็ชนท้ายรถ ส.ต.จักรีเข้าอย่างแรง แล้วแฉลบมาชนรถตน จากนั้นก็พุ่งข้ามเกาะกลางไปชนรถที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งได้รับความเสียหาย
ด้าน ร.ต.ท.สันติ ผิวทองคำ พงส.(สบ 1) สน.สุทธิสาร กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหากับใคร ต้องรอสอบปากคำคู่กรณีทั้งหมดก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และใครเป็นคนผิด พร้อมทั้งจะตรวจวัดแอลกอฮอล์ทุกคนด้วยว่ามีแอลกอฮอล์หรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น นายไพศาล กับนายจักรพันธ์ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ แต่ก็ต้องตรวจให้ครบทั้ง 4 คน หากพบใครมีแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย