พนักงานสอบสอนรุดแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา “กักขัง-ลักทรัพย์” ฆาตกรฆ่าหั่นศพถึงเรือนจำ พร้อมสอบปากคำเพิ่มในประเด็นต่างหู-แหวนเพชร ที่ยังหายไป เจ้าตัวอ้างอาจสูญหายหรือหล่น บอกอยู่ในคุกจะนั่งทำสมาธิ ยันอีกรอบสาเหตุที่ลงมือมาจากความโกรธแค้น และไม่มีอาการทางจิตแต่อย่างใด ด้านแพทย์สั่งห้ามน้องมินท์ร่วมงานศพมารดาหวั่นกระทบบาดแผล ส่วนตัวเด็กเรียกร้องหาลุง “โจ”
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย รอง ผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.ประเสริฐ สีตลาสัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน ได้รวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องออกเดินทางไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อทำการสอบปากคำ นายสิริพงศ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ เพิ่มเติมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง และแจ้งข้อกล่าวหานายสิริพงศ์ เพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ
พ.ต.ท.มานะ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ให้มาสอบปากคำนายสิริพงศ์ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ โดยวันนี้พนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำทุกประเด็นที่เคยสอบปากคำมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งเรื่องทรัพย์สินที่ยังหายไป ก็คือ ต่างหูเพชร และแหวนเพชร รวมถึงนำคำให้การของพยานแวดล้อม พยานบุคคล และคำให้การของน้องมินท์ ที่ให้ข้อมูลทั้งหมดมาดูว่า จะตรงกับคำให้การของผู้ต้องหาหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหามีอาการทางจิตหรือไม่นั้น ทางผู้ต้องหาก็บอกเองว่า สิ่งที่พูดสามารถพิสูจน์ได้มีการรู้ผิดชอบ ไม่น่ามีอาการทางจิตแต่อย่างใด
หลังสอบปากคำนานประมาณ 2 ชั่วโมง พ.ต.ท.มานะ เปิดเผยว่า นายสิริพงศ์ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เจ้าตัวพูดคุยได้ตามปกติ และบอกว่าช่วงอยู่ในห้องขังจะนั่งทำสมาธิ ซึ่งหลังจากสอบปากคำ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามวัตถุพยานหลักฐานที่ได้มา รวมทั้งนำทรัพย์สินที่เป็นหลักฐานให้ผู้ต้องหาดูแล้ว นายสิริพงศ์ ก็ยอมรับว่า ทรัพย์สินทุกรายการเอามาจากตัวนางสุนันท์จริง ส่วนต่างหูเพชร แหวนเพชร ที่ยังหาไม่เจอนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้ถอดจากศพ นางสุนันท์ แต่อาจสูญหายหรือทำหล่นไป นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินบางรายการที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของตัวเอง เช่น พระธาตุเลี่ยมทอง ส่วนเรื่องสาเหตุการลงมือฆ่านั้น ผู้ต้องหายังยืนยันเหมือนเดิมว่า มาจากความโกรธแค้นนางสุนันท์ ที่ต้องการหาคนมาทำร้ายตัวเอง
พ.ต.ท.มานะ กล่าวอีกว่า เรื่องการกักขัง น้องมินท์ นั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า น้องมินท์ อยู่ในความดูแลของตัวเอง ซึ่งตัวผู้ต้องหาจะพูดอย่างไรก็ได้ ทางตำรวจไม่ได้เชื่อ 100% ขึ้นอยู่กับพยานวัตถุ อย่างไรก็ตามวันนี้เวลา 16.00 น.พล.ต.ต.อำนวย จะเรียกประชุมเพื่อเร่งรัดคดี ซึ่งหากหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ การพิสูจน์ศพ หลักฐานทางอาวุธปืน ได้มาครบถ้วน ก็จะสามารถสรุปคดีได้ภายในสัปดาห์นี้ และทางพนักงานสอบสวนคงไม่มาสอบคำผู้ต้องหาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานอาการของน้องมินท์ ว่า ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับกรณีที่พ่อน้องมินท์ติดต่อขอนำตัวน้องมินท์ออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปร่วมพิธีศพ นางสุนันท์ ผู้เป็นแม่ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งทีมแพทย์ลงความเห็นว่า ยังไม่สมควร เพราะน้องมินท์เพิ่งผ่านการผ่าตัดที่ข้อศอกซ้าย และยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูจึงอาจทำให้กระทบกระเทือนบาดแผลได้
ส่วนสภาพจิตใจของน้องมินท์นั้น แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดจนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถรับประทานอาหารและนอนหลับได้ตามปกติ ทั้งนี้ น้องมินท์ เปรยว่า อยากพบ “ลุงโจ” ซึ่งสนิทกับ นางสุนันท์ ผู้เป็นแม่ และอาศัยอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ยังไม่อนุญาตให้พบ จึงได้แต่พุดคุยทางโทรศัพท์เท่านั้น
ต่อมาเวลา 16.30 น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เรียกประชุมพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีนี้ โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ต่างหอบแฟ้มเอกสารพยานหลักฐานที่รวบรวมได้รายงานต่อที่ประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย รอง ผกก.สส. สน.สุทธิสาร และพ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีตลาสัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางมาไปสอบปากคำนายสิริพงศ์ กาญจนนิวิฐ ผู้ต้องหาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพิ่มเติม โดยเจ้าตัวกำลังนั่งสมาธิอยู่ที่แดน 1 ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังให้การยืนยันตามคำให้การเดิมถึงสาเหตุของการสังหารนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ และด.ช.โช มาคิโน ว่า เป็นเพราะโกรธแค้นผู้ตายที่จะหาคนมาทำร้ายตัวเอง
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า หลังจากสอบปากคำเพิ่มเติมแล้วพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยข้อหานี้นายศิริพงษ์ให้การรับสารภาพว่า ได้ปลดทรัพย์สินของผู้ตายก่อนนำศพ ไปทิ้ง ส่วนต่างหูเพชรที่หายไปนั้น นายศิริพงษ์ให้การว่า อาจจะหล่นระหว่างการรวบรวม ทรัพย์สินของผู้ตายใส่ถุง ส่วนข้อหากังขังหน่วงเหนี่ยวน้องมินท์นั้น นายศิริพงษ์ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าต้องปิดประตูเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหนี พร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอนาจารเด็กหญิง
“แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้ให้น้ำหนักกับคำให้การของผู้ต้องหามากนัก โดยจะให้น้ำหนักกับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุมากกว่า ขณะนี้การสอบสวนเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอสามารถยืนยันเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ทุกข้อหาอย่างแน่นอน สำนวนการสอบสวนใกล้เสร็จเกือบ 80 % แล้วเหลือเพียงรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อาวุธปืน ผลเลือด รอยวิถีกระสุน เท่านั้นคาดว่า 1- 2 วันนี้จะส่งมาให้ จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดและสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้ภายในสัปดาห์นี้ “ พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
ตร.เตรียมแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา มือฆ่าหั่นศพ-หมอทำกายภาพบำบัด “น้องมินท์”
เล็งแจ้งข้อหาเพิ่ม “แท็กซี่หั่นศพ” หลังพบลักทรัพย์เหยื่อหลังก่อเหตุ
ป้า “น้องมินท์” ยันฆาตกรแต่งเรื่อง ปักใจปมฆ่าชิงทรัพย์!
กร้อนผมมือฆ่าหั่นควบคุมแดน 1 ส่งนักจิตวิทยาคุยเช็กสภาพจิต!
แพทย์ไฟเขียว “น้องมินท์” สภาพจิตดี พร้อมให้ปากคำ ตร.
“อำนวย” เตรียมสอบปากคำ “น้องมินท์” พรุ่งนี้ (16 ต.ค.)
ตำรวจฝากขังไอ้โหดฆ่าหั่นศพ ค้านประกันหวั่นพยานได้รับอันตราย
“นวย” เชื่อคำสารภาพมือฆ่าแม่หั่นศพลูก ลั่นไม่เกี่ยวแก๊งยากูซ่า
มือหั่นศพลั่น! ให้อภัยเหยื่อสาวไม่ได้ แต่ขอขมา “น้องโช” ขอชาติหน้าได้เป็นพ่อลูกกัน
หมอห่วงสภาพจิต “น้องมินท์” เหยื่อมือฆ่าหั่นศพ!
คุมตัวมือฆ่าหั่นทำแผน ตร.มุ่งปมโยงฆ่าตามใบสั่ง!
ค้นห้องมือฆ่าหั่นศพหลักฐานชัด - ชิ้นส่วนมือเด็กยังหาไม่พบ!
มือฆ่าหั่นศพเปิดใจโดนดูถูกไม่มีน้ำยา คว้าปืนรัวทั่วรถ 14 นัด!
มือฆ่าโหด “แม่-ลูก” มอบตัว ให้การสับสน-อ้างหึงหวง
ฆ่าโหด 2 ศพ เป็น “แม่-ลูก” ชาวเกาหลี-ลูกคนเล็กยังไม่รู้ชะตากรรม
5 วันรู้หัวกระสุนศพ “หญิงนิรนาม-เด็กฆ่าหั่น” โยงกันหรือไม่
ฆ่าหั่นศพยังไม่ชัดเป็นเด็กเกาหลี รอผลดีเอ็นเอโยงฆ่าหญิงนิรนาม
สลดปนสยอง! เหี้ยมผิดวิสัยมนุษย์ ลั่นไกฆ่าหั่นศพตัดคอเด็กยัดถุงดำทิ้ง!
