ศูนย์ข่าวศรีราชา- นักธุรกิจญี่ปุ่นหายตัวลึกลับกระจ่างแล้ว สถาบันนิติเวช ระบุชัด ศพเปลือย ตัดมือ และเท้า ทิ้งป่าสัตหีบเป็นนักธุรกิจค้าที่ดินญี่ปุ่น ตำรวจอายัดตัวเพื่อนร่วมชาติในเรือนจำเตรียมสอบ และหาพยานแวดล้อมัดฆ่าเพื่อนหวังเงิน 3 ล้านเยน ทำธุรกิจมืดในไทย
จากกรณีที่เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 26 ธันวาคม 2550 พันตำรวจโท ถาวร อนวัชสกุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก พลเมืองดี ว่า ได้พบศพเป็นเพศชายนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะซอยโรงโม่หินเก่า สำนักสงฆ์กิโลเมตรที่ 8 ไม่สวมกางเกง และเสื้อผ้า สภาพเน่าอืดจนเกือบแห้ง ข้อมือ ข้อเท้า ถูกตัดขาดหายไป เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 กว่าวัน
ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนและตำรวจชุดสืบสวน ได้สอบถามประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ในซอยดังกล่าวไม่มีใครหายไปจากบ้าน และไม่มีใครรู้จักคนที่เสียชีวิต ซึ่งน่าจะฆ่ากันแล้วนำศพมาจากในพื้นที่อื่น
ล่าสุด วันนี้ (11 ม.ค.) พันตำรวจโทถาวร อนวัชสกุล พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง เจ้าของพื้นที่พบศพ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจเรื่องพบศพ ซึ่งทุกฝ่ายสันนิษฐานว่าอาจเป็นศพของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่า เป็นศพชาวญี่ปุ่นชื่อ นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี (Mr.NAKASONO HIROSHI) นักธุรกิจซื้อ-ขายที่ดินในประเทศญี่ปุ่นที่หายตัวไปจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 พร้อมเงินสดอีก 3,500,000 เยน ต้องรอผลดีเอ็นเอจากสถาบันนิติเวชก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า ศพที่พบเป็นศพของชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆ่าแล้วนำศพมาทิ้งไว้ในป่า เพื่ออำพรางคดี ซึ่งจะประสานไปยังสถานีตำรวจพัทยาในการดำเนินการ เพราะเหตุเกิดในพื้นที่เมืองพัทยา แล้วนำศพมาทิ้งในเขตสัตหีบ
พันตำรวจเอกนพดล วงศ์น้อม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพัทยา กล่าวว่า ขณะได้ทราบผลการชันสูตรและผลการพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ของลูกชายแล้ว ทราบว่า ศพที่พบในป่าเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบเป็นศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี (Mr.NAKASONO HIROSHI) นักธุรกิจซื้อ-ขายที่ดินในประเทศญี่ปุ่นที่หายตัวไป
จึงเชื่อว่า ผู้ที่ตกเป็นผู้สงสัยเป็นคนลงมือฆ่า ก็คือ นายซาซากิ โอชิชิกุ อายุ 53 ปี (Mr.SASAKI TOSHIHIKU) มีบ้านพักอยู่ที่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซอยบุญสัมพันธ์ เลขที่ 154/29 หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในข้อหามีบุหรี่ต่างประเทศไว้ในครอบครอง โดยไม่ผ่านขบวนการศุลกากร (บุหรี่ต่างประเทศจำนวน 11 แท่ง) และพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง เงินสดสกุลญี่ปุ่น อีก 3,500,000 เยน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินของ นายชิโรชิ นากาโรโน ชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไป และสงสัยว่า นายซาซากิ โอชิชิกุ อาจเป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพเพื่อนชาวญี่ปุ่น เพื่อนำเงินมาลงทุนค้าบุหรี่เถื่อนก็เป็นได้ แต่ในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังปิดปากเงียบไม่ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเพื่อนร่วมชาติ
พันตำรวจเอกนพดล กล่าวว่า นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี สาเหตุที่ทราบว่าหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2550 นั้น เนื่องจากลูกชายของ นายชิโรชิ ได้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นนำเอกสารสำคัญส่วนตัวของพ่อมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพัทยา ว่า บิดาได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย และขาดการติดต่อตั้งแต่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2550
สถานทูตญี่ปุ่นได้ตรวจสอบกับทางสนามบินแล้ว พบหลักฐานภาพวงจรปิดมีรถเก๋ง โดย นายซาซากิ โอชิชิกุ ชาวญี่ปุ่น เป็นคนไปรับจากสนามบินมุ่งหน้ามาทางพัทยา และประสานมายังตำรวจพัทยาจึงได้ช่วยกันติดตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถควบคุมตัว นายซาซากิ โอชิชิกุ ไว้ก่อนในข้อหาสรรพาสามิตและศุลกากร ฝากขังไว้ที่เรือนจำหนองปลาไหล
นอกจากนี้ ยังทราบว่า นายชิโรชิ นากาโรโน มีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อ นางบุญพร เย็นทรัพย์ อยู่ที่บ้านเลขที่ 162/52 หมู่ที่ 10 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และเคยมีปัญหากันเรื่องทำร้ายร่างกาย จนได้มีการชดใช้ค่าเสียหายกันเป็นเงิน 3 หมื่นบาท ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเรื่องการหายตัวไป และยังพบศพที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงในเรื่องของห้วงเวลาที่หายไปและพบศพ เมื่อผลจากสถาบันนิติเวชมาก็จะสามารถระบุได้ว่าใช่ศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน หรือไม่ ถ้าใช่ก็จะสอบสวนเพื่อนชาวญี่ปุ่น ที่ไปรับตัวมาจากสนามบินและผู้ที่มีส่วนพัวพันในประเทศไทยทั้งหมดด้วย
จากกรณีที่เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 26 ธันวาคม 2550 พันตำรวจโท ถาวร อนวัชสกุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก พลเมืองดี ว่า ได้พบศพเป็นเพศชายนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะซอยโรงโม่หินเก่า สำนักสงฆ์กิโลเมตรที่ 8 ไม่สวมกางเกง และเสื้อผ้า สภาพเน่าอืดจนเกือบแห้ง ข้อมือ ข้อเท้า ถูกตัดขาดหายไป เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 กว่าวัน
ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนและตำรวจชุดสืบสวน ได้สอบถามประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ในซอยดังกล่าวไม่มีใครหายไปจากบ้าน และไม่มีใครรู้จักคนที่เสียชีวิต ซึ่งน่าจะฆ่ากันแล้วนำศพมาจากในพื้นที่อื่น
ล่าสุด วันนี้ (11 ม.ค.) พันตำรวจโทถาวร อนวัชสกุล พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง เจ้าของพื้นที่พบศพ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจเรื่องพบศพ ซึ่งทุกฝ่ายสันนิษฐานว่าอาจเป็นศพของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่า เป็นศพชาวญี่ปุ่นชื่อ นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี (Mr.NAKASONO HIROSHI) นักธุรกิจซื้อ-ขายที่ดินในประเทศญี่ปุ่นที่หายตัวไปจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 พร้อมเงินสดอีก 3,500,000 เยน ต้องรอผลดีเอ็นเอจากสถาบันนิติเวชก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า ศพที่พบเป็นศพของชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆ่าแล้วนำศพมาทิ้งไว้ในป่า เพื่ออำพรางคดี ซึ่งจะประสานไปยังสถานีตำรวจพัทยาในการดำเนินการ เพราะเหตุเกิดในพื้นที่เมืองพัทยา แล้วนำศพมาทิ้งในเขตสัตหีบ
พันตำรวจเอกนพดล วงศ์น้อม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพัทยา กล่าวว่า ขณะได้ทราบผลการชันสูตรและผลการพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ของลูกชายแล้ว ทราบว่า ศพที่พบในป่าเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบเป็นศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี (Mr.NAKASONO HIROSHI) นักธุรกิจซื้อ-ขายที่ดินในประเทศญี่ปุ่นที่หายตัวไป
จึงเชื่อว่า ผู้ที่ตกเป็นผู้สงสัยเป็นคนลงมือฆ่า ก็คือ นายซาซากิ โอชิชิกุ อายุ 53 ปี (Mr.SASAKI TOSHIHIKU) มีบ้านพักอยู่ที่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซอยบุญสัมพันธ์ เลขที่ 154/29 หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในข้อหามีบุหรี่ต่างประเทศไว้ในครอบครอง โดยไม่ผ่านขบวนการศุลกากร (บุหรี่ต่างประเทศจำนวน 11 แท่ง) และพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง เงินสดสกุลญี่ปุ่น อีก 3,500,000 เยน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินของ นายชิโรชิ นากาโรโน ชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไป และสงสัยว่า นายซาซากิ โอชิชิกุ อาจเป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพเพื่อนชาวญี่ปุ่น เพื่อนำเงินมาลงทุนค้าบุหรี่เถื่อนก็เป็นได้ แต่ในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังปิดปากเงียบไม่ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเพื่อนร่วมชาติ
พันตำรวจเอกนพดล กล่าวว่า นายชิโรชิ นากาโรโน อายุ 67 ปี สาเหตุที่ทราบว่าหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2550 นั้น เนื่องจากลูกชายของ นายชิโรชิ ได้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นนำเอกสารสำคัญส่วนตัวของพ่อมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพัทยา ว่า บิดาได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย และขาดการติดต่อตั้งแต่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2550
สถานทูตญี่ปุ่นได้ตรวจสอบกับทางสนามบินแล้ว พบหลักฐานภาพวงจรปิดมีรถเก๋ง โดย นายซาซากิ โอชิชิกุ ชาวญี่ปุ่น เป็นคนไปรับจากสนามบินมุ่งหน้ามาทางพัทยา และประสานมายังตำรวจพัทยาจึงได้ช่วยกันติดตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถควบคุมตัว นายซาซากิ โอชิชิกุ ไว้ก่อนในข้อหาสรรพาสามิตและศุลกากร ฝากขังไว้ที่เรือนจำหนองปลาไหล
นอกจากนี้ ยังทราบว่า นายชิโรชิ นากาโรโน มีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อ นางบุญพร เย็นทรัพย์ อยู่ที่บ้านเลขที่ 162/52 หมู่ที่ 10 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และเคยมีปัญหากันเรื่องทำร้ายร่างกาย จนได้มีการชดใช้ค่าเสียหายกันเป็นเงิน 3 หมื่นบาท ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเรื่องการหายตัวไป และยังพบศพที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงในเรื่องของห้วงเวลาที่หายไปและพบศพ เมื่อผลจากสถาบันนิติเวชมาก็จะสามารถระบุได้ว่าใช่ศพของ นายชิโรชิ นากาโรโน หรือไม่ ถ้าใช่ก็จะสอบสวนเพื่อนชาวญี่ปุ่น ที่ไปรับตัวมาจากสนามบินและผู้ที่มีส่วนพัวพันในประเทศไทยทั้งหมดด้วย
