พนักงานสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา 7 คน ร่วมกระทำผิดให้อัยการสั่งฟ้อง “เสี่ยขาว” รับเต็มๆ ไม่รอดคุก ส่วนนักร้องวงเบิร์น รอลุ้นชั้นศาลตามประจักษ์พยานหลักฐานที่ชี้มูลความผิด ด้าน “ลิขิต” มั่นใจหลักฐานมัดแน่นเอาผิดคนเผา 66 ศพ สังเวยซานติก้าคืน 31 ธ.ค.51 แน่นอน
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.รายงานข่าวจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น. 5) แจ้งว่า คณะกรรมการสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ โดยมี พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เผาย่างสด 66 ศพ ก่อนที่ พล.ต.ต.ลิขิต จะเกีษยณอายุราชการในปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา
โดยสำนวนคดีที่ทีมพนักงานสอบสวนสรุปชี้มูลความผิดผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ในเบื้องต้นเห็นว่าประจักษ์พยานเห็น นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์น ได้มีการจุดไฟแช็กในช่วงที่เกิดเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สืบพยานตามที่นายสราวุธได้ร้องขอความเป็นธรรม โดยมีวัตถุพยานเทปบันทึกภาพที่ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้มอบให้ทีมสืบสวนมาตรวจสอบสืบตามแนวทางของคดี และได้ดูภาพในวิดีโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ในช่วงตอนที่มีการยิง หรือใช้เอฟเฟกต์ จนอาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมได้ความว่า ประจักษ์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุเห็นมีลูกไฟพุ่งขึ้นไปเพดานหลายลูกในช่วงเวลาเดียวกันได้มีการนำดอกไม้ไฟ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ก่อนจุดเอฟเฟกต์จนเกิดเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้า ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบ หรือเจ้าของกิจการ และได้มีการจัดเฉลิมฉลองปีใหม่พร้อมจัดอำลาซานติก้าวันสุดท้ายที่หมดสัญญา ในวันที่ 31 ธ.ค.2551 ถูกตั้งข้อหาประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ซึ่งเป็นข้อหาหลัก นอกจากนั้น ยังถูกตั้งข้อหาปล่อยให้มีการมั่้วสุมเสพยาเสพติดในสถานบริการ นอกจากนี้ ยังมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารผิดแบบ ดัดแปลงสถานที่การให้บริการด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลักฐานทั้งหมดที่ทีมพนักงานสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับที่ได้สรุปพร้อมที่จะลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งพยานหลักฐานมีน้ำหนักพอเพียงที่จะเห็นควรสั่งฟ้อง 7 คน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้า, นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการ บ.ไวท์แอนด์บราเธอร์, ผู้ถือใบอนุญาต, ผู้จัดการซานติก้าผับ, นักร้องวงเบิร์น, นายบุญชู เหล่าศรีนาท ผู้จัดทำเอฟเฟกต์, ผู้อนุญาตสร้างอาคาร ที่ดัดแปลงผิดแบบ
ทางด้าน พล.ต.ต.ลิขิต กล่าวว่า ก่อนหมดวาระการทำงานเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้ทาง บก.น.5 ดูแลติดตามผู้ต้องหาทั้ง 7 คน มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ได้ส่งอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว ซึ่งในคดีนี้ตนได้มอบหมายให้ดูแลคดีทั้งหมดต่อจากตนหลังหมดวาระการทำงาน โดยที่ผ่านมาทีมพนักงานสอบสวนฯทำงานอย่างเต็มที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างสมบูรณ์ก่อนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดให้แล้วเสร็จก่อนเกษียณอายุราชการ ส่วนตัวเชื่อว่า คดีนี้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับโทษตามที่ได้กระทำผิดแน่นอน
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.รายงานข่าวจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น. 5) แจ้งว่า คณะกรรมการสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ โดยมี พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เผาย่างสด 66 ศพ ก่อนที่ พล.ต.ต.ลิขิต จะเกีษยณอายุราชการในปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา
โดยสำนวนคดีที่ทีมพนักงานสอบสวนสรุปชี้มูลความผิดผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ในเบื้องต้นเห็นว่าประจักษ์พยานเห็น นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์น ได้มีการจุดไฟแช็กในช่วงที่เกิดเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สืบพยานตามที่นายสราวุธได้ร้องขอความเป็นธรรม โดยมีวัตถุพยานเทปบันทึกภาพที่ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้มอบให้ทีมสืบสวนมาตรวจสอบสืบตามแนวทางของคดี และได้ดูภาพในวิดีโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ในช่วงตอนที่มีการยิง หรือใช้เอฟเฟกต์ จนอาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมได้ความว่า ประจักษ์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุเห็นมีลูกไฟพุ่งขึ้นไปเพดานหลายลูกในช่วงเวลาเดียวกันได้มีการนำดอกไม้ไฟ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ก่อนจุดเอฟเฟกต์จนเกิดเพลิงไหม้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้า ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบ หรือเจ้าของกิจการ และได้มีการจัดเฉลิมฉลองปีใหม่พร้อมจัดอำลาซานติก้าวันสุดท้ายที่หมดสัญญา ในวันที่ 31 ธ.ค.2551 ถูกตั้งข้อหาประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ซึ่งเป็นข้อหาหลัก นอกจากนั้น ยังถูกตั้งข้อหาปล่อยให้มีการมั่้วสุมเสพยาเสพติดในสถานบริการ นอกจากนี้ ยังมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารผิดแบบ ดัดแปลงสถานที่การให้บริการด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลักฐานทั้งหมดที่ทีมพนักงานสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับที่ได้สรุปพร้อมที่จะลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งพยานหลักฐานมีน้ำหนักพอเพียงที่จะเห็นควรสั่งฟ้อง 7 คน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้า, นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการ บ.ไวท์แอนด์บราเธอร์, ผู้ถือใบอนุญาต, ผู้จัดการซานติก้าผับ, นักร้องวงเบิร์น, นายบุญชู เหล่าศรีนาท ผู้จัดทำเอฟเฟกต์, ผู้อนุญาตสร้างอาคาร ที่ดัดแปลงผิดแบบ
ทางด้าน พล.ต.ต.ลิขิต กล่าวว่า ก่อนหมดวาระการทำงานเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้ทาง บก.น.5 ดูแลติดตามผู้ต้องหาทั้ง 7 คน มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ได้ส่งอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว ซึ่งในคดีนี้ตนได้มอบหมายให้ดูแลคดีทั้งหมดต่อจากตนหลังหมดวาระการทำงาน โดยที่ผ่านมาทีมพนักงานสอบสวนฯทำงานอย่างเต็มที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างสมบูรณ์ก่อนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดให้แล้วเสร็จก่อนเกษียณอายุราชการ ส่วนตัวเชื่อว่า คดีนี้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับโทษตามที่ได้กระทำผิดแน่นอน
