ปคม.จับอาจารย์ซี 8 ลวงเด็กสาวค้ากามญี่ปุ่น

ปคม.ตามรวบอาจารย์ซี 8 โรงเรียนดังในจังหวัดหนองบัวลำภู ลวงสาวส่งค้ากามเมืองปลาดิบ พฤติกรรมแสบชักชวนเด็กสาวหน้าตาดีไปเป็นเด็กเสิร์ฟ อ้างรายได้ดีแถมออกค่าเดินทาง-ที่พัก สุดท้ายไปถึงถูกบังคับให้ค้าประเวณีใช้หนี้ เผยได้ค่านายหน้าคนละ 7 แสน เชื่อ มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 ส่วนเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ใช้ตำแหน่งขอประกันแต่ ตร.ค้านประกัน พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมแก๊ง

วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัตช์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางจิรภัทร แรมลี อายุ 53 ปี อาจารย์ซี 8 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา เลขที่ 2963/2552 ลงวันที่ 16 ต.ค.52 ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และหน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท.แก่นคูณ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 4 เล่ม สำเนาตั๋วเครื่องบิน จำนวน 4 ฉบับ และเอกสารอื่นๆ อีกรวม 12 รายการ

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจสากลญี่ปุ่น ว่า มีกระบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงหญิงจากประเทศไทยไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อค้าประเวณี โดยมีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกนางจิรภัทร หลอกพาไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 พ.ย.51 แต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลญี่ปุ่นได้บุกทลาย และทำการช่วยเหลือก่อนส่งตัวกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.52

พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อไปว่า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพฤติกรรมเรื่อยมาจนกระทั่งพบว่า นายจิรภัทร จะทำทีชักชวนหญิงสาวหน้าตาดี ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ หรือพนักงานในร้านอาหารที่ต่างประเทศ ทั้งแถบประเทศยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือจีน และจะมีรายได้อย่างงาม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะนัดเจรจา โดยจะออกค่าเครื่องบิน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ หลังจากนั้น ก็จะเป็นคนพาเหยื่อไปส่งให้เอเยนต์ในประเทศนั้นๆ ด้วยตัวเอง โดยที่เหยื่อไม่รู้มาก่อน จากนั้นเอเยนต์ก็จะได้จ่ายค่านายหน้าให้นางจิรภัทรถึงคนละ 700,000 บาท

“หลังจากนั้น ทางเอเยนต์ก็จะบังคับให้เหยื่อเซ็นสัญญาเพื่อใช้หนี้ ในส่วนค่าตัวที่เอเยนต์จ่ายให้กับนางจิรภัทรไป เป็นจำนวนเงินถึงประมาณ 1 ล้านบาท ก่อนจะบังคับให้ทางเหยื่อขายตัวเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ หากว่ายังใช้หนี้ไม่หมดก็จะไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ซึ่งจากการสืบสวน พบว่า นางจิรภัทร หลอกลวงหญิงสาวมาแล้วหลายราย จนตัวเองมีฐานะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา” พล.ต.ท.ไถง กล่าว

พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำสืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับนางจิรภัทร จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วานนี้ (17 ต.ค.) พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ พ.ต.ต.นนท์วาณัฐกริช กลิ่นพงศ์ สว.บก.ปคม. นำกำลัง เจ้าหน้าที่ บก.ปคม.เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว พร้อมด้วยของกลาง สมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 4 เล่ม สำเนาตั๋วเครื่องบิน จำนวน 4 ฉบับ และเอกสารอื่นๆ อีกรวม 12 รายการ ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ

ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และขอใช้ตำแหน่งตัวเองประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยหากตีราคาแล้วเป็นหลักทรัพย์ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดค้านการประกันตัว โดยจะให้ผู้ต้องหาไปประกันในชั้นศาลเอง นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป