จับเพิ่มหนุ่มใหญ่ร่วมแก๊งอินเดียอุ้มเด็กเรียกค่าไถ่

กองปราบตามรวบหนุ่มใหญ่เมืองนนท์ ร่วมแก๊งอินเดียอุ้มเด็กเรียกค่าไถ่ 25 ล้าน หลังจับผู้ร่วมแก๊งได้ก่อนหน้า ยังปากแข็งให้การปฏิเสธอ้างเป็นแค่คนขับรถตู้ไม่รู้เรื่อง ตร.เผย ผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถลักพาตัวแถมเป็นคนเปิดบัญชีให้เหยื่อโอนเงินผ่านบัญชี

วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ สว.กก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ณรงค์ อำภาภัย พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.5 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม นายวันชัย พรหมเกตุจันทร์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 1 ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 976/2550 ลงวันที่ 12 กันยายน 2550 ข้อหาร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการใดหรือจำยอมโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 84/37 หมู่ 3 หมู่บ้านเอเชีย 2 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ร่วมกับ นายอินทรายิส คูมา ปานเดย์ อายุ 38 ปี นายอวีนัส ปันเด อายุ 35 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย นายเจปรากาส ติวารี อายุ 38 ปี ทั้งหมดสัญชาติอินเดีย และนางณัฐรุจา ทองไทย อายุ 40 ปี เสมียนประจำคาร์แคร์ย่านท่าอิฐ จ.นนทบุรี ซึ่งถูกตำรวจ บก.ป.จับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ ก่อเหตุอุ้มตัว นายนาเรดราเดฟ ปานเดย์ เศรษฐีนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชาวอินเดีย ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 25 ล้านบาท และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนกระดูกซี่โครงหัก ใบหน้าบวมปูด เหตุเกิดที่ย่านตลาดพาหุรัด เขตพระนคร กทม.เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา

จากการสืบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคนขับรถตู้ลักพาตัวผู้เสียหายไป รวมทั้งเป็นคนเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อให้ญาติเหยื่อโอนเงินค่าไถ่จำนวน 1.3 ล้านบาทมาให้ ภายหลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปทำงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง ที่หมู่บ้านเอเชีย 2 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงวางแผนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ทราบเรื่องตั้งแต่แรกเพราะขณะนั้นทำงานเป็นคนขับรถตู้ ส่วนบัญชีธนาคารก็ถูกขอชื่อไปใช้เปิดบัญชี และตนก็ไม่รู้ด้วยว่าถูกศาลออกหมายจับในคดีดังกล่าว หากทราบก็คงเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีไปแล้ว ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป