00...หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันแปลกดีนะ...หลังจาก ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง พูดตรงกันว่า ระเบิดหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ข้างรั้วสำนักงานเอสเอทีวี และข้างสำนักงาน ป.ป.ช.เป็นชนิดเดียวกัน ส่วนจะเป็นใคร ก่อเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เชื่อว่า ต้องเป็นพวกเดียวกันแน่นอน!
ขณะที่การข่าวที่รัฐบาลได้รับถือว่าตรงกันว่า มีกลุ่มคนชั่ว....(ม็อบพลังทักษิณ)....คอยจ้องที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ กทม.เพื่อหวังผลทางการเมือง...ทำให้รัฐบาล โดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกฯ ด้านความมั่นคงไม่นิ่งนอนใจ ต้องเสนอออก พ.ร.บ.การรักษาความมันคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม ภายใต้เหตุผลที่ว่า เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย เนื่องจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันที่ 17 ตุลาคมนี้
สำหรับแผนชั่วระลอกนี้ ว่ากันว่า มีกลุ่มอดีตนายทหารสายโหด เป็นตัววางหมาก เดินเกมป่วนชนิดแตกหัก ส่วนจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงแค่เกมหลอกหล่อ...กอ.รมน.และสันติบาล น่าจะเกาะติดเป็นกรณีพิเศษนะครับ
00...สีกากีสาย “บิ๊กจุ๋ม” ยืนยัน วันนี้และวันหน้าสำหรับ “จุมพล มั่นหมาย” หัวเด็ด ตีนขาดไม่มีคำว่าขอถอนตัวจากการเป็นตัวชิง ผบ.ตร.ตัวจริงแน่นอน...ทำให้การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ตัวจริง เสียงจริง ที่หากจะมีขึ้น ถือว่ายังคงเป็นงานหนัก และอาจถึงเครียดหนัก สำหรับประธาน ก.ต.ช.ที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
แต่สำหรับคณะกรรมการ ก.ต.ช.ว่ากันว่า หลังจาก “นิพนธ์ พร้อมพันธ์” น้อยใจ “มาร์ค” ขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แบบไร้เหตุผล...ทำให้ ก.ต.ช.หลายคนต่างรู้ซึ้ง เห็นใจและเข้าใจนายกฯ มากขึ้นว่าทำไมจึงต้องตั้ง “ปทีป ตันประเสริฐ” รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
แม้ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธาน ก.ตร.ยังไม่ฟันธงว่าถึงเวลาตั้งตัวจริงเสียงจริงหรือไม่ก็ตามที โดยบอกเพียงว่าเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับตนเอง ชัดเจนแล้วว่า ศุกร์ 16 ตุลาคมนี้ นัดประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี...ครับผม
ส่วนวันไหนเมื่อใด ท่าน “ปทีป” จะมีบุญวาสนานั่ง ผบ.ตร.ตัวจริง? ก่อนเกษียณ ท่านจะมีโอกาสได้นั่งบริหาร สตช.แบบอำนาจเต็มหรือไม่? เรื่องนี้ ต้องรอฟ้าลิขิตนะครับท่าน...
00...ไปดูคำปราศรัยดีๆ เนื่องใน “วันตำรวจ” 13 ตุลาคม ของทุกปี โดย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ต.ช.ฝากว่า...“ตำรวจยังมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเสมอภาค และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้แนวทางสันติ รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความมั่นคง เป็นศูนย์รวมจิตใจและความสามัคคีของคนในชาติ ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีความต้องการมากขึ้น ที่จะเห็นตำรวจและองค์กรของตำรวจพัฒนาก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมธิบาล”
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกฯ ประธาน ก.ตร. “ขอให้ตำรวจต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ตำรวจจึงจำเป็นต้องมีความรู้ เชี่ยวชาญในหน้าที่ของตนเองในทุกๆ ด้าน เสียสละ อดทน อดกลั้น คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และต้องปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่สงบในชาติบ้านเมือง โดยยึดถือ ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติเป็นสำคัญ”
“พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ” รรท.ผบ.ตร.ท่านได้ฝากไปถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่าน ขอให้ตั้งใจทำงาน ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะต้องยืนอยู่บนความเป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริต ตรากตรำเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนเราก็ต้องทำงานเพื่อให้สังคมสงบสุขให้ได้ ดังสุภาษิตที่ว่า “ตำรวจนั้นแข็งยิ่งกว่าเหล็ก” โดยที่ท่าน “ปทีป” มั่นใจในเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่านว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคและทำให้สังคมสงบสุขได้
อีกคนที่กำลังสำคัญผิดในตัวเอง..คงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดี ได้โพสต์ทวิตเตอร์สร้างความแตกแยกในหมู่ตำรวจอีกครั้ง เมื่อเขาบอกว่า “นับตั้งแต่เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2512 ปีนี้เป็นปีที่ขวัญกำลังใจตำรวจตกต่ำที่สุด ทำงานตามหน้าที่ก็อาจผิด อนาคตต้องซื้อ บางทีต้องถูกใช้ปลอมตัวไปตีคนไทยด้วยกัน ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่า พระสยามเทวาธิราชมีจริง ไม่นานเกินรอเมฆหมอกจะจางหายไป”
00...ปิดท้ายที่เรื่องตำรวจ สน.ชนะสงคราม ทำงามหน้า “วันตำรวจ” โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาบ่ายแก่ๆ ทีมข่าวอาชญากรรมเอสเอทีวี ผู้จัดการรายวัน ได้รับฟังเสียงระบายจากพนักงานเอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน คนหนึ่ง หลังจากที่เขาเดินขึ้นโรงพักชนะสงคราม เพื่อแจ้งความบันทึกเป็นหลักฐานกรณีสลิปเงินเดือนหาย เพื่อนำไปแสดงต่อกรมบังคับคดี ตามขั้นตอนของกฎหมายในการบังคับคดี
แต่เจ้าหล่อน (ตำรวจ) ซึ่งเป็นดาบตำรวจหญิง อายุประมาณ 40 ปี ผู้รับแจ้ง กลับพูดเสียงดัง แสดงอาการไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับถามว่า มาอีกแล้วหรือ...มาเป็นพันคนแล้ว...รู้แล้ว...หากจะมาอีกก็บอกให้มาแจ้งตอนกลางคืนบ้าง...หนูได้เท่าไหร่ล่ะ..แต่ละคนได้เป็นแสนๆ นิ...รู้แล้วเจ้านายคนเดียวกันไม่ใช่หรือ
ทำให้แทนที่ประชาชนที่เดินขึ้นโรงพัก จะมองภาพตำรวจในแง่ดี แต่เมื่อถูกตำรวจพูดในลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก และเรื่องเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย สำหรับ “วันตำรวจ” ที่ผู้บริหาร สตช.ต่างพูดนักพูดหนาว่าขอให้ตำรวจทำงานเพื่อประชาชน
ขณะที่การข่าวที่รัฐบาลได้รับถือว่าตรงกันว่า มีกลุ่มคนชั่ว....(ม็อบพลังทักษิณ)....คอยจ้องที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ กทม.เพื่อหวังผลทางการเมือง...ทำให้รัฐบาล โดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกฯ ด้านความมั่นคงไม่นิ่งนอนใจ ต้องเสนอออก พ.ร.บ.การรักษาความมันคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม ภายใต้เหตุผลที่ว่า เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย เนื่องจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันที่ 17 ตุลาคมนี้
สำหรับแผนชั่วระลอกนี้ ว่ากันว่า มีกลุ่มอดีตนายทหารสายโหด เป็นตัววางหมาก เดินเกมป่วนชนิดแตกหัก ส่วนจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงแค่เกมหลอกหล่อ...กอ.รมน.และสันติบาล น่าจะเกาะติดเป็นกรณีพิเศษนะครับ
00...สีกากีสาย “บิ๊กจุ๋ม” ยืนยัน วันนี้และวันหน้าสำหรับ “จุมพล มั่นหมาย” หัวเด็ด ตีนขาดไม่มีคำว่าขอถอนตัวจากการเป็นตัวชิง ผบ.ตร.ตัวจริงแน่นอน...ทำให้การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ตัวจริง เสียงจริง ที่หากจะมีขึ้น ถือว่ายังคงเป็นงานหนัก และอาจถึงเครียดหนัก สำหรับประธาน ก.ต.ช.ที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
แต่สำหรับคณะกรรมการ ก.ต.ช.ว่ากันว่า หลังจาก “นิพนธ์ พร้อมพันธ์” น้อยใจ “มาร์ค” ขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แบบไร้เหตุผล...ทำให้ ก.ต.ช.หลายคนต่างรู้ซึ้ง เห็นใจและเข้าใจนายกฯ มากขึ้นว่าทำไมจึงต้องตั้ง “ปทีป ตันประเสริฐ” รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
แม้ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธาน ก.ตร.ยังไม่ฟันธงว่าถึงเวลาตั้งตัวจริงเสียงจริงหรือไม่ก็ตามที โดยบอกเพียงว่าเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับตนเอง ชัดเจนแล้วว่า ศุกร์ 16 ตุลาคมนี้ นัดประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี...ครับผม
ส่วนวันไหนเมื่อใด ท่าน “ปทีป” จะมีบุญวาสนานั่ง ผบ.ตร.ตัวจริง? ก่อนเกษียณ ท่านจะมีโอกาสได้นั่งบริหาร สตช.แบบอำนาจเต็มหรือไม่? เรื่องนี้ ต้องรอฟ้าลิขิตนะครับท่าน...
00...ไปดูคำปราศรัยดีๆ เนื่องใน “วันตำรวจ” 13 ตุลาคม ของทุกปี โดย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ต.ช.ฝากว่า...“ตำรวจยังมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเสมอภาค และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้แนวทางสันติ รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความมั่นคง เป็นศูนย์รวมจิตใจและความสามัคคีของคนในชาติ ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีความต้องการมากขึ้น ที่จะเห็นตำรวจและองค์กรของตำรวจพัฒนาก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมธิบาล”
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกฯ ประธาน ก.ตร. “ขอให้ตำรวจต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ตำรวจจึงจำเป็นต้องมีความรู้ เชี่ยวชาญในหน้าที่ของตนเองในทุกๆ ด้าน เสียสละ อดทน อดกลั้น คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และต้องปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่สงบในชาติบ้านเมือง โดยยึดถือ ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติเป็นสำคัญ”
“พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ” รรท.ผบ.ตร.ท่านได้ฝากไปถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่าน ขอให้ตั้งใจทำงาน ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะต้องยืนอยู่บนความเป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริต ตรากตรำเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนเราก็ต้องทำงานเพื่อให้สังคมสงบสุขให้ได้ ดังสุภาษิตที่ว่า “ตำรวจนั้นแข็งยิ่งกว่าเหล็ก” โดยที่ท่าน “ปทีป” มั่นใจในเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่านว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคและทำให้สังคมสงบสุขได้
อีกคนที่กำลังสำคัญผิดในตัวเอง..คงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดี ได้โพสต์ทวิตเตอร์สร้างความแตกแยกในหมู่ตำรวจอีกครั้ง เมื่อเขาบอกว่า “นับตั้งแต่เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2512 ปีนี้เป็นปีที่ขวัญกำลังใจตำรวจตกต่ำที่สุด ทำงานตามหน้าที่ก็อาจผิด อนาคตต้องซื้อ บางทีต้องถูกใช้ปลอมตัวไปตีคนไทยด้วยกัน ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่า พระสยามเทวาธิราชมีจริง ไม่นานเกินรอเมฆหมอกจะจางหายไป”
00...ปิดท้ายที่เรื่องตำรวจ สน.ชนะสงคราม ทำงามหน้า “วันตำรวจ” โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาบ่ายแก่ๆ ทีมข่าวอาชญากรรมเอสเอทีวี ผู้จัดการรายวัน ได้รับฟังเสียงระบายจากพนักงานเอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน คนหนึ่ง หลังจากที่เขาเดินขึ้นโรงพักชนะสงคราม เพื่อแจ้งความบันทึกเป็นหลักฐานกรณีสลิปเงินเดือนหาย เพื่อนำไปแสดงต่อกรมบังคับคดี ตามขั้นตอนของกฎหมายในการบังคับคดี
แต่เจ้าหล่อน (ตำรวจ) ซึ่งเป็นดาบตำรวจหญิง อายุประมาณ 40 ปี ผู้รับแจ้ง กลับพูดเสียงดัง แสดงอาการไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับถามว่า มาอีกแล้วหรือ...มาเป็นพันคนแล้ว...รู้แล้ว...หากจะมาอีกก็บอกให้มาแจ้งตอนกลางคืนบ้าง...หนูได้เท่าไหร่ล่ะ..แต่ละคนได้เป็นแสนๆ นิ...รู้แล้วเจ้านายคนเดียวกันไม่ใช่หรือ
ทำให้แทนที่ประชาชนที่เดินขึ้นโรงพัก จะมองภาพตำรวจในแง่ดี แต่เมื่อถูกตำรวจพูดในลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก และเรื่องเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย สำหรับ “วันตำรวจ” ที่ผู้บริหาร สตช.ต่างพูดนักพูดหนาว่าขอให้ตำรวจทำงานเพื่อประชาชน