สามีเก่าหึงหวงอดีตภรรยา ตามยิงพ่อค้าขายกับข้าวดับภายในตลาดราชวัตร พ่อผู้ตายเผยลูกชายเคยถูกคนร้ายแทงบาดเจ็บมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนได้ประกันตัวและคดียังอยู่ในชั้นศาล ด้านตำรวจเร่งสอบปากคำพยานและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
เมื่อเวลาประมาณ 03.10 น.วันนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ โฉมงาม ร้อยเวร สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณตลาดสดราชวัตร ถ.นครไชยศรี แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.ทินกร สมวันดี รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านเลขที่ 10 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายบริเวณตลาดสดราชวัตร เจ้าหน้าที่พบศพนายณภัทร เกตุประภาวิน อายุ 34 ปี พ่อค้าขายกับข้าวภายในตลาดสดราชวัตรและที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ถ.แจ้งวัฒนะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 เข้าที่ศีรษะจำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบหัวกระสุน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำนางนิตยา บุ้งทอง ภรรยาผู้ตายและญาติไปสอบปากคำที่ สน.ดุสิต
น.ส.จิรฐา ธนสุขเกษม ภรรยานายณภัทรกล่าวว่า ตนเคยอยู่กินกับนายศักดิ์ดา วังศวิพุทธ อายุ 35 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 10 ขวบ และคนเล็กอายุ 6 ขวบ กระทั่งมีปัญหาจึงหย่าขาดกัน ต่อมาจึงย้ายมาอยู่กินกับนายณภัทร นานประมาณ 2 ปีเศษ แต่ปรากฏว่านายศักดิ์ดาขอคืนดีโดยตลอด และก่อนหน้านี้นายศักดิ์เคยหึงหวงใช้อาวุธมีดก่อเหตุแทงนายณภัทรมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล
ด้าน พ.ท.คำศรี บุ้งทอง อายุ 68 ปี อดีตนายทหารนอกราชการ กรมพลาธิการทหารบก นนทบุรี พ่อผู้ตายกล่าวว่า ลูกชายอยู่กินกับภรรยาที่หย่าขาดกับสามีเก่ามาแล้วประมาณ 2 ปี ช่วงเช้าจะตื่นทำกับข้าวเป็นประจำที่ตลาดราชวัตร กระทั่งถูกคนร้ายซึ่งมีคนเห็นเหตุการณ์ว่าคือนายศักดา วังศวิพุทธ อายุ 35 ปี เข้ามายิงเสียชีวิตภายในบ้าน ก่อนหน้านี้นายศักดาเคยก่อเหตุแทงลูกชายมาแล้ว และถูกตำรวจออกหมายจับ ก่อนจะได้ประกันตัว และออกมาก่อเหตุในครั้งนี้
“ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ นายศักดาได้เจอกับภรรยาลูกชาย และบอกว่าเดี๋ยวจะมาหา เพื่อมาเจอหน้าลูก กระทั่งก่อเหตุยิงลูกชายเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป” พ.ท.คำศรีกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.จักรภพ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืน หลายนัดจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำภรรยาและญาติผู้ตาย ก่อนออกหมายจับและให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลาประมาณ 03.10 น.วันนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ โฉมงาม ร้อยเวร สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณตลาดสดราชวัตร ถ.นครไชยศรี แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.ทินกร สมวันดี รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านเลขที่ 10 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายบริเวณตลาดสดราชวัตร เจ้าหน้าที่พบศพนายณภัทร เกตุประภาวิน อายุ 34 ปี พ่อค้าขายกับข้าวภายในตลาดสดราชวัตรและที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ถ.แจ้งวัฒนะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 เข้าที่ศีรษะจำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบหัวกระสุน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำนางนิตยา บุ้งทอง ภรรยาผู้ตายและญาติไปสอบปากคำที่ สน.ดุสิต
น.ส.จิรฐา ธนสุขเกษม ภรรยานายณภัทรกล่าวว่า ตนเคยอยู่กินกับนายศักดิ์ดา วังศวิพุทธ อายุ 35 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 10 ขวบ และคนเล็กอายุ 6 ขวบ กระทั่งมีปัญหาจึงหย่าขาดกัน ต่อมาจึงย้ายมาอยู่กินกับนายณภัทร นานประมาณ 2 ปีเศษ แต่ปรากฏว่านายศักดิ์ดาขอคืนดีโดยตลอด และก่อนหน้านี้นายศักดิ์เคยหึงหวงใช้อาวุธมีดก่อเหตุแทงนายณภัทรมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล
ด้าน พ.ท.คำศรี บุ้งทอง อายุ 68 ปี อดีตนายทหารนอกราชการ กรมพลาธิการทหารบก นนทบุรี พ่อผู้ตายกล่าวว่า ลูกชายอยู่กินกับภรรยาที่หย่าขาดกับสามีเก่ามาแล้วประมาณ 2 ปี ช่วงเช้าจะตื่นทำกับข้าวเป็นประจำที่ตลาดราชวัตร กระทั่งถูกคนร้ายซึ่งมีคนเห็นเหตุการณ์ว่าคือนายศักดา วังศวิพุทธ อายุ 35 ปี เข้ามายิงเสียชีวิตภายในบ้าน ก่อนหน้านี้นายศักดาเคยก่อเหตุแทงลูกชายมาแล้ว และถูกตำรวจออกหมายจับ ก่อนจะได้ประกันตัว และออกมาก่อเหตุในครั้งนี้
“ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ นายศักดาได้เจอกับภรรยาลูกชาย และบอกว่าเดี๋ยวจะมาหา เพื่อมาเจอหน้าลูก กระทั่งก่อเหตุยิงลูกชายเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป” พ.ท.คำศรีกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.จักรภพ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืน หลายนัดจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำภรรยาและญาติผู้ตาย ก่อนออกหมายจับและให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
