แทง พขร.ศูนย์บริการโลหิตดับคา จยย.

พบศพพนักงานขับรถศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถูกคนร้ายตีหน้าเลือดอาบ และถูกแทงเข้าที่หน้าอกอีกหนึ่งแผล เสียชีวิตคารถ จยย. ตร.มึนหาตัวผู้ก่อเหตุ คาดถูกรุมทำร้าย หรืออาจมีเรื่องกับวัยรุ่นเจ้าถิ่น

วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 04.30 น. ร.ต.ท.สมบัติ มีล้อม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกแทงเสียชีวิตที่วัดมงคลวราราม (มะเกลือ) ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ต.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากประตูทางเข้าวัดประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายชินณุการ สีมงคลรัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/82 ซอยชัยวัตร แขวงบางค้อ เขตจอมทอง เป็นพนักงานขับรถศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อและกางเกงสีกากี โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ หมายเลขทะเบียน ปยว-447 ทับที่ขาผู้ตายอยู่

จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผล พบร่องรอยถูกตีที่ใบหน้าจนเลือดไหล และมีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอก 1 แผล จากการตรวจค้นในตัวพบเงินสดประมาณ 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือและบัตรพนักงานของผู้ตาย นอกจากนี้ยังพบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 ฟุต และมีดทำครัว 1 เล่ม สภาพหักงอ ตกอยู่ใกล้กับศพผู้ตาย จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายโกวิท วงศ์เลิศ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305 หมู่ 5 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ตนเพิ่งกลับจากเที่ยวผับและแวะไปส่งแฟนสาวที่บ้าน ระหว่างที่ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับเข้าบ้านซึ่งอยู่ข้างวัดดังกล่าวก็เห็นผู้ตายนอนหายใจรวยรินอยู่ จึงรีบใช้โทรศัพท์มือถือโทร.แจ้ง 191 แต่ปรากฏว่าแบตเตอรี่หมด จึงรีบวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์หน้าวัด พร้อมกับเรียกคนกวาดขยะและรถแท็กซี่ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ตาย ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ต.ไกรวิทย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาพยานแวดล้อมที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ แต่ปรากฏว่าไม่พบพยานที่เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 4-5 ปาก ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปนั่งดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนย่านบางกอกใหญ่ จากนั้นก็ได้แยกย้ายกัน โดยผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปแล้ว แต่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมาอีกรอบ จนกระทั่งมีผู้มาพบศพผู้ตายอยู่บริเวณดังกล่าว

พ.ต.ต.ไกรวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้น ขณะที่สามารถตัดประเด็นที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องออกไป เหลือเพียงแค่ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรกผู้ตายอาจจะขับขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ากับคนร้ายจึงถูกรุมทำร้าย แต่คาดว่าน่าจะเป็นการสั่งสอนมากกว่า แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนเสียชีวิต เพราะอาวุธที่ใช้นั้นเป็นมีดทำครัวกับไม้ซึ่งหาได้จากบริเวณแถวนั้น

ส่วนอีกประเด็นอาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาลูกสาวในบ้านญาติซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ แต่ผู้ตายซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาอาจจะไปมีเขม่นหรือปากเสียงกับวัยรุ่นเจ้าถิ่นจึงทำให้ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว