ปอศ.ทลายโรงงานปลอมคิปลิงก์ส่งขายประตูน้ำ

ปอศ.นำทีมบุกค้นโรงงานผลิตกระเป๋ายี่ห้อดัง เลียนแบบเครื่องหมายการค้า ย่านถนนพัฒนาการ พบคนงานกว่า 30 คน กำลังทำงาน ก่อนคุมตัวสอบ พร้อมยึดกระเป๋าที่เย็บเสร็จ 500 ชิ้น จักรเย็บผ้าอีก 50 เครื่อง มูลค่า 5 ล้าน เผย เปิดโรงงานผลิตมาหลายปีผลิตกระเป๋าส่งขายประตูน้ำได้วันละ 100 ใบ

วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.ท.เจนกมล คำนวล รอง ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.ท.สัญชัย พาณิชกุล รอง ผกก.3 บก.ปอศ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.นำหมายศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ 232/2525 ลงวันที่ 28 ก.ย.52 บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 89/1 ซอยพัฒนาการ 20 แยก 4 ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง หลังสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวลักลอบเปิดเป็นโรงงานผลิตกระเป๋าเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อคิปลิงก์

บ้านหลังดังกล่าว เปิดเป็นโรงงานไม่มีชื่อ มีชั้นเดียวอยู่ในรั้วรอบขอบชิด ซึ่งจากการตรวจค้นพบคนงานนั่งทำงานอยู่ประมาณ 30 คน จึงควบคุมตัวไว้สอบปากคำ ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในโรงงานก็พบกระเป๋าปลอมแปลงยี่ห้อคิปลิงก์ที่เย็บปักแล้ว 500 ชิ้น ส่วนที่จะประกอบกระเป๋าหลายพันชิ้น จักรเย็บผ้าขนาดใหญ่กว่า 50 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน นายมีชัย กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ตั้งมาหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้ รับงานเย็บกระเป๋าผ้าธรรมดา แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีลูกค้าสั่งสินค้าน้อย คนงานก็ขาดรายได้ ไม่อยากให้ตกงานหรือว่างงาน จึงแอบผลิตกระเป๋าปลอมคิปลิงก์ เพราะทุกวันนี้ผู้คนสนใจแต่กระเป๋าที่มียี่ห้อคิปลิงก์ โดยแต่ละวันจะเย็บกระเป๋าได้ประมาณ 100 ใบ ส่วนใหญ่จะส่งขายย่านประตูน้ำ ราคาใบละ 200-300 บาท ซึ่งคุณภาพของกระเป๋าจะอยู่ที่เกรดดี คนก็สนใจซื้อเพราะราคาถูก เนื่องจากของจริงมีราคาใบละ 2,000-3,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.กฤษฎา กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในโรงงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีรั้วรอบขอบชิด ใช้ประตูเลื่อนเหล็กปิดแน่นหนาใช้รีโมตไฟฟ้ากดเปิดปิดประตู และยังมีกล้องวงจรปิดติดตั้งทางเข้าออกของโรงงาน เจ้าหน้าที่ต้องรอช่วงเวลาเที่ยง ที่โรงงานเปิดประตูให้คนงานหยุดพัก ออกมาซื้ออาหารด้านนอก ก่อนจะบุกเข้าไปตรวจค้น

จากนั้นจึงควบคุมตัวคนงานและของกลางทั้งหมดไปดำเนินคดีที่ บก.ปอศ.ในข้อหา ผลิตสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ