“เสรีพิศุทธ์” ส่งทนายความส่วนตัวยื่นฟ้อง “พัชรวาท-สมยศ-ศรีวราห์-ศิริวัฒน์” และพวกรวม 8 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แจ้งความเท็จ หมิ่นประมาท บุกรุกป่าสร้างรีสอร์ตภูไพธารน้ำ กาญจนบุรี ยันบริสุทธิ์มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกลั่นแกล้ง
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. มอบอำนาจให้นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัวยื่นฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รองผกก.สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. นายมานพ สายอุ่นใจ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.ท.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.นพดล รักชาติ พงส. (สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พ.ต.ท.ปราชญาณ จิเนราวัติ รอง ผกก.สน.วัดพระยาไกร เป็นจำเลยที่ 1-8 ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 157, 172, 326 และ328
คำฟ้องโจทก์สรุป เมื่องวันที่ 16 มิ.ย.2552 จำเลยที่ 2 และ 3 ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่ารีสอร์ตภูไพธารน้ำ ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีการถมดินและหินขนาดใหญ่ล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำแควน้อย รุกล้ำป่า และออกเอกสารสิทธิเกินกว่าหลักเดิมโดยผิดกฎหมาย โดยจำเลยที่ 3 นำข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนวินัยร้ายแรงโจทก์ ซึ่งไม่สามารถเอาผิดหรือลงโทษทางวินัยร้ายแรงแก่โจทก์ได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงครั้งนั้นปรากฏว่ากรณีการถมที่ดินล่วงล้ำแม่น้ำแควน้อย โจทก์มิได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา เดิม น.ส.3 ก. เลขที่ 195 และ 844 ตั้งอยู่ ม.1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นของนายชานนท์ จันทร์ไพรศรี ต่อมานายชานนท์ต้องการที่จะนำที่ดินดังกล่าวทั้ง 2 แปลง มาทำรีสอร์ท และได้ทำเรื่องสอบถามไปทางกรมป่าไม้ ซึ่งทราบว่าที่ดินดังกล่าวไม่เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและไม่ได้รุกล้ำแม่น้ำแควน้อยแต่อย่างใดแล้วต่อมานายชานนท์ ขายที่ดินให้โจทก์
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2552 จำเลยที่ 1 3,5,6และ 7 ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจำเลยที่ 1 ซึ่งมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน เกี่ยวกับการแถลงข่าวขบวนการปล้นตำแหน่ง ผบ.ตร. และกรณีการร้องเรียนทุจริตงบประมาณการโฆษณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 18 ล้านบาท ได้ลงคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 368/2552 ลงวันที่ 29 ก.ค.2552 แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนจำนวน 13 คน ขึ้นมาสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี และมีการออกหมายเรียกโจทก์ ทั้งนี้ หากพิจารณาพยานหลักฐานที่โจทก์ได้ให้การไว้ในชั้นสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดร้ายแรง ก็จะเห็นได้ว่าไม่สามารถลงโทษโจทก์ในความผิดทางวินัยร้ายแรงได้ ต่อมามีการนัดหมายนักข่าวให้มาที่บ้านโจทก์ เพื่อส่งหมายเรียกอันเป็นการประจานโจทก์ เพื่อหมิ่นประมาทโจทก์ทำให้ประชาชนที่ไม่ทราบความจริง เข้าใจว่าโจทก์ทำการบุกรุกป่า บุกรุกลำน้ำแควน้อย และกระทำผิดกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณา
นายอนันตชัยเปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นภายหลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับขบวนการปล้นตำแหน่ง ผบ.ตร.และการร้องเรียนทุจริตงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2552 และในวันเดียวกันจึงมีการไปแจ้งความเรื่องการรุกล้ำแม่น้ำแควน้อยของรีสอร์ตภูไพธารน้ำ ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทั้งที่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้มีการสั่งสอบวินัยร้ายแรง เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถเอาผิดต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ และเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งในการใส่ร้ายบุกรุกสร้างรีสอร์ตก็ไม่เป็นจริงมีหลักฐานยืนยันความถูกต้อง พร้อมชี้แจงได้
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. มอบอำนาจให้นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัวยื่นฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รองผกก.สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. นายมานพ สายอุ่นใจ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.ท.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.นพดล รักชาติ พงส. (สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พ.ต.ท.ปราชญาณ จิเนราวัติ รอง ผกก.สน.วัดพระยาไกร เป็นจำเลยที่ 1-8 ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 157, 172, 326 และ328
คำฟ้องโจทก์สรุป เมื่องวันที่ 16 มิ.ย.2552 จำเลยที่ 2 และ 3 ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่ารีสอร์ตภูไพธารน้ำ ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีการถมดินและหินขนาดใหญ่ล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำแควน้อย รุกล้ำป่า และออกเอกสารสิทธิเกินกว่าหลักเดิมโดยผิดกฎหมาย โดยจำเลยที่ 3 นำข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนวินัยร้ายแรงโจทก์ ซึ่งไม่สามารถเอาผิดหรือลงโทษทางวินัยร้ายแรงแก่โจทก์ได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงครั้งนั้นปรากฏว่ากรณีการถมที่ดินล่วงล้ำแม่น้ำแควน้อย โจทก์มิได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา เดิม น.ส.3 ก. เลขที่ 195 และ 844 ตั้งอยู่ ม.1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นของนายชานนท์ จันทร์ไพรศรี ต่อมานายชานนท์ต้องการที่จะนำที่ดินดังกล่าวทั้ง 2 แปลง มาทำรีสอร์ท และได้ทำเรื่องสอบถามไปทางกรมป่าไม้ ซึ่งทราบว่าที่ดินดังกล่าวไม่เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและไม่ได้รุกล้ำแม่น้ำแควน้อยแต่อย่างใดแล้วต่อมานายชานนท์ ขายที่ดินให้โจทก์
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2552 จำเลยที่ 1 3,5,6และ 7 ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจำเลยที่ 1 ซึ่งมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน เกี่ยวกับการแถลงข่าวขบวนการปล้นตำแหน่ง ผบ.ตร. และกรณีการร้องเรียนทุจริตงบประมาณการโฆษณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 18 ล้านบาท ได้ลงคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 368/2552 ลงวันที่ 29 ก.ค.2552 แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนจำนวน 13 คน ขึ้นมาสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี และมีการออกหมายเรียกโจทก์ ทั้งนี้ หากพิจารณาพยานหลักฐานที่โจทก์ได้ให้การไว้ในชั้นสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดร้ายแรง ก็จะเห็นได้ว่าไม่สามารถลงโทษโจทก์ในความผิดทางวินัยร้ายแรงได้ ต่อมามีการนัดหมายนักข่าวให้มาที่บ้านโจทก์ เพื่อส่งหมายเรียกอันเป็นการประจานโจทก์ เพื่อหมิ่นประมาทโจทก์ทำให้ประชาชนที่ไม่ทราบความจริง เข้าใจว่าโจทก์ทำการบุกรุกป่า บุกรุกลำน้ำแควน้อย และกระทำผิดกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณา
นายอนันตชัยเปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นภายหลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับขบวนการปล้นตำแหน่ง ผบ.ตร.และการร้องเรียนทุจริตงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2552 และในวันเดียวกันจึงมีการไปแจ้งความเรื่องการรุกล้ำแม่น้ำแควน้อยของรีสอร์ตภูไพธารน้ำ ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทั้งที่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้มีการสั่งสอบวินัยร้ายแรง เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถเอาผิดต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ และเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งในการใส่ร้ายบุกรุกสร้างรีสอร์ตก็ไม่เป็นจริงมีหลักฐานยืนยันความถูกต้อง พร้อมชี้แจงได้